อย่างนี้ก็มีด้วย!! สอบอยู่นานสุดท้ายหาไม่เจอเงิน 4 หมื่นลูกจ้างนำฝากกสิกรหายไปไหน!?! ตร.สรุปฟ้องพนง.แบงก์ไปก่อน??

สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมานาน กรณี นายวชิระ อริยะพงษ์กรณ์ อายุ 41 ปี พนักงานร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ได้นำหลักฐานเป็นสำเนาเอกสารการฝากเงินเข้าบัญชีของธนาคารกสิกรไทยแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมหลังจากนายจ้างให้นำเงินสดจำนวน 80,000 บาท ไปเข้าบัญชี จำนวน 80,000 บาท แต่ตรวจสอบภายหลังพบว่า พนักงานออกสลิปรายการรับฝากให้เพียงแค่ 40,000 บาท ก่อนจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าพนักงานได้ทำการแยกเงินก่อนที่จะนำเข้าเครื่องนับเงิน  คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อ้าวๆๆ..งานงอกเลย!! เคยดูหรือไม่สลิปฝากเงิน?? หนุ่มลูกจ้างหอบเงินเกือบแสนฝากแบงก์ยอดหายไปครึ่งหนึ่ง เปิดภาพ CCTV สงสัยถูกพนง.ยักยอก??

 

 

โดยในเวลาต่อมาทางธนาคารได้ออกมาชี้แจงโดยอ้างว่าเงินอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่นำเข้าเครื่องตรวจนับนั้น เพราะสามารถนับด้วยสายตาได้ คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เดี๋ยวก็รู้ใครโกหก!! คืบหน้าหนุ่มลูกจ้างร้องทุกข์ฝากเงินแบงก์ 8 หมื่นหายไปครึ่งหนึ่ง ล่าสุดพนง.สาวต้นเรื่องเพิ่งโผล่พบตร.!?!  กระทั่งมีข่าวออกมาอีกว่าทางพนักงานคนดังกล่าวได้นำเงินจำนวน 40,000 บาทไปให้ผู้เสียหายโดยขอให้เรื่องจบและงดให้ข่าวกับสื่อนั้น  คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อ้าว...ได้หรอ!! หนุ่มลูกจ้างงงหนักสาวแบงก์มอบ 4 หมื่น บอกเป็นเงินเยียวยา แลกของดให้ข่าวกับสื่อ พอนึกถึงคดีเงินฝากหายโร่ส่งคืนตร.แทบไม่ทัน ??  ประเด็นนี้เองที่ทำให้คนในสังคมเกิดความสนใจอย่าง เพราะต้องการคำตอบที่ว่า แท้จริงแล้วเงินที่นำไปฝากในวันนั้นมีจำนวน 80,000 บาทจริงหรือไม่ หรือพนักงานของทางธนาคารนั้นทำการทุจริตในเงินจำนวนนั้นหรือไม่อย่างไร

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับการ สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ส่งผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้สภ.วัดสิงห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลที่ปรากฏตามรายละเอียดที่ส่งมานั้น ระบุว่าไม่สามารถตตรวจสอบได้ว่าใครเอาเงินไป หรือเงินหายไปไหน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสรุปสำนวนเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปตามคำยืนยันของทางผู้เสียหาย และในท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะคดีลักทรัพย์เป็นคดีความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ถึงแม้ทางผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความ คดีก็จะไม่ยุติ ต้องดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด

 

และในกรณีที่เจ้าหน้าที่ธนาคารและหัวหน้าฝ่ายได้นำเงิน 4 หมื่นไปเยียวยาให้แก่หนุ่มลูกจ้างและเจ้าของร้าน พร้อมเซ็นเอกสารว่าต้องงดให้ข่าวกับสื่อ และถอนแจ้งความ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง โดยในขณะนี้เงินจำนวน 40,000 อยู่กับทางเจ้าของร้าน (ผู้เสียหาย) ส่วนหนุ่มลูกจ้างยังคงทำงานอยู่ที่ร้านขายอาหารสัตว์ตามปกติ