อินไซด์หุ้นฉาว!!เมื่อ 2 ยักษ์อสังหาไล่รุมจีบ AQ หวังร่วมทุนที่ดิน 4.3 พันไร่บุกโปรเจคนิคมอุตฯงานนี้ใครถือหุ้นค้าง(คา)ต้องรู้ให้เท่าทันเกมส์?

ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th

เป็นหนึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีกระแสข่าวต่อเนื่องในช่วงระยะที่ผ่านมา   ถึงขั้นต้องทำหนังสือชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (ต.ล.ท.) หลายรอบ  สืบเนื่องจากประเด็นผลกระทบจากการเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะเป็นจำเลยร่วม  ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  พิพากษาให้บริษัทต้องร่วมชำระคืนเงินแก่ธนาคารกรุงไทย ในจำนวนเงินมูลค่าสูงถึง 10,004 ล้านบาท   จน ต.ล.ท.ต้องขึ้นเครื่องหมาย  SP  และ NP  หุ้น  AQ  หรือ  บมจ.เอคิว เอสเตท  (ชื่อเดิมก็คือบมจ. กฤษดามหานคร จำกัด หรือ KMC )   ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.2560 ที่ผ่านมา

ล่าสุดมีข่าววงในเริ่มแพลมไต๋ออกมาว่า  AQ กำลังจะกลับมากระดี๊กระด๊าอีกรอบในเดือน ส.ค. นี้  ภายหลังแผนเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP)  ประสบความสำเร็จทั้ง 2 ครั้ง  จนสามารถระดมทุนเข้ากระเป๋าเหนาะๆ กว่า 3.6 พันล้านบาท  ขณะเดียวกันมีข่าววงในมาแรง  บอกเล่าว่าราคานอกกระดานหุ้น  AQ  มีสนนราคาเสนอซื้อ  พุ่งทะยานไปถึงหุ้นละ 30 สตางค์  แต่ก็หาซื้อได้ยากมาก ??

แน่นอนว่าเป็นธรรมดาโลก...ผู้ถือหุ้นติดมาขนาดนี้   คงไม่มีใครคิดจะบ้าขาย  ในเมื่อที่ดิน AQ 4.3 พันไร่แสนสวย  ซึ่งเคยเป็นทุกขลาภของ AQ  กำลังจะกลายมูลค่าเป็นยิ่งกว่าขุมทองคำ แปรสภาพเป็นก้อนเงินมหาศาล  ด้วยตัวเลขที่มีการประเมินเบื้องต้นว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 4 ล้านบาทต่อไร่  คูณไปคูณมาสระตะคงทำเงินไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท  !!!

 

 

อินไซด์หุ้นฉาว!!เมื่อ 2 ยักษ์อสังหาไล่รุมจีบ AQ หวังร่วมทุนที่ดิน 4.3 พันไร่บุกโปรเจคนิคมอุตฯงานนี้ใครถือหุ้นค้าง(คา)ต้องรู้ให้เท่าทันเกมส์?

 

 

และด้วยเหตุผลนี้แหละ คือปัจจัยสำคัญทำให้สองยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศต่างจ้องตาเป็นมัน  โดยแว่วๆ ว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อ “เสี่ยเจริญ”  ผ่านเครือข่าย TICON  เพราะมีการเพิ่มทุนกว่าหมื่นล้านบาทเพื่อรอโปรเจคนี้มาตั้งแต่ต้นปี   งานนี้ผู้สันทัดกรณีนั่งยันนอนยัน ... ไม่ได้มั่วแน่นอน !!! ส่วนอีกกลุ่มที่ให้ความสนใจขยับแข้งขา  เหลือบตามองด้วยสายตาลุกวาว คือ “กลุ่มเครือธุรกิจอาหารรายใหญ่ยักษ์”    แต่ผู้สันทัดกรณีฟันธงว่า  คนเข้าวินน่าจะเป็น “เสี่ยน้ำเมา”  เพราะราคาที่เสนอและความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและผู้บริหาร AQ

 

มาถึงคำถามสำคัญว่า คนซื้อไปทำไม... ทั้งๆที่ราคาปิดล่าสุดแค่เพียง 22 สตางค์   แต่ผู้สันทัดกรณีนี้   บอกเว่า คนซื้อหุ้น AQ นอกตลาด อาจแค่ดูโดยเผินๆ เท่านั้น   เพราะราคาที่ซื้อแพงกว่า  Book Value  และ เพิ่งจะมีเพิ่มทุนหมาดๆ  และอาจจะเพิ่มทุนอีก ? หรือคนขายโง่ที่ขายเพราะคิดว่าฉลาดกว่าและอ่านเกมออก ? แต่หลังศึกษาดูดีดี   ปรากฏว่า  Book Value ที่ดูต่ำ เป็นเพราะลงบัญชีราคาที่ดิน 4.3 พันไร่  มีก้อนเงินเพียง 5  พันล้านบาท และสำรองหนี้ไปอีกกว่า 3 พันล้านเท่านั้น ???  วิเคราะห์ให้ลึกไปอีก  สามารถสรุปเป็นประเด็นเพื่อความเข้าใจง่าย ๆ  ได้ดังนี้

 

1. หากเรื่องกับธนาคารกรุงไทยจบ 3  พันล้าน  ก็ Reverse (**หมายเหตุผู้สันทัดกรณีได้ยินข่าวว่าจบแล้วเสียด้วยซ้ำ)
2. ที่ดิน 4.3 พันไร่ สีม่วง  ใกล้สุวรรณภูมิ   ราคาขายที่ดินนิคมแถวนั้นอยู่ 10-12 ล้านขึ้น หากยังไม่พัฒนาน่าจะอยู่ราว 5-6 ล้าน  แต่ที่ลงบัญชีราคา 5 พันล้าน ก็เพราะลงตามราคาบังคับขาย

 

ดังนั้นหากปรับตัวเลข  Book Value ใหม่ (โดยคำนวน Dilution แล้ว)  จะอยู่ที่เกือบ 40 สตางค์ แบบยังไม่พัฒนาที่ดินนิคม  และหากพัฒนาก็คูณไปเลย ... สนนราคาก็น่าจะขยับขึ้นไปประมาณ 1 บาทต่อหุ้น  และในไตรมาส 2 เชื่อได้ว่า AQ จะ Reverse การตั้งสำรองอีกหลายพันล้านจากคดีกรุงไทย...

สรุป... คนที่บ้าซื้อ อาจจะไม่บ้าเท่าคนที่บ้าขาย  เพราะคนซื้อคือพวกมีข้อมูลภายในแน่นอน !!!!

มองในมุมเก็งกำไร   หุ้นกลับมาซื้อขายใหม่ทุกตัวววววววววว   ราคาเปิดไม่เคยต่ำกว่าราคาเดิม ... ส่วนใหญ่อยู่ที่  150-7000% … ฟังแล้วอาจตกใจ  แต่นี่คือเรื่องจริง ....

 

ตัวอย่างล่าสุด

AJP (11 ก.ย. 56)
ก่อนขึ้น SP 0.23 บ.
เทรดวันแรก 17.8 บ. 
+7,639.13%


TWS (31 ต.ค. 56)
ก่อนขึ้น SP 1.72 บ.
เทรดวันแรก 18 บ. 
+946.51%


SMPC (11 พ.ย. 56)
ก่อนขึ้น SP 1.85 บ.
เทรดวันแรก 36 บ.
+1,845.95%

MPG (9 ก.ค. 57)
ก่อนขึ้น sp  0.13 บาท
เทรดวันแรก ราคาเปิด 3.52
+2608%
 
Sgf (1 ก.พ 60)
ก่อนขึ้น sp 0.26
เทีดวันแรก 0.69 บาท 
+165%

Apx (27 มี.ค 60)
ก่อนขึ้น sp 1.49 บาท
เทรดวันแรก ราคาเปิด 2.12 บาท + 42%
ราคาปิด 0.96

 

บทสรุปสุดท้าย  ผู้สันทัดกรณี   ขีดเส้นใต้ให้เฝ้าจับตากันต่อไปว่า    “ เราติดมานาน อย่าหวังเยอะเลย แต่คงไม่ใช่ 0.30 บาทต่อหุ้นแน่ๆ ยิ่งใกล้ซื้อขายแล้ว ฟ้าหลังฝนต้องสวยงามสิ จริงมั้ย ??  ”