เงิบก่อนขึ้นเขียง! ลืมเปล่าวันนี้ก่อนศาลนัดชี้ชะตา"หญิงปู" 25ส.ค."หนูปู"อยากให้ส่งศาลรธน.ใจจะขาด เพื่อต่อลมหายใจ แต่ศาลบอกไม่ต้อง-ทุกอย่างจบ

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


เงิบก่อนขึ้นเขียง!! ลืมเปล่าความจริงวันนี้ ก่อนศาลคดีอาญานักการเมือง จะไต่สวน "คดีโกงข้าวหญิงปู" นัดสุดท้าย และต่อมาศาลฯ  ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 25 ส.ค.หรืออีกแค่ 1 เดือนข้างหน้านี้เลย สาระสำคัญอีกประการหนึ่งในวันนี้คือ ศาลได้วินิจฉัยในประเด็นที่ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องไว้เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา กรณีขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การไต่สวนเธอตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2542 และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เกี่ยวกับการยึดสำนวน ป.ป.ช. ขัดรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งประกาศใช้ล่าสุดหรือไม่  โดยผู้สันทัดทางการเมืองต่างยืนยันตรงกันว่า "ฝ่ายหนูปู" อยากให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความใจจะขาด เพราะอย่างน้อยก็เป็นการต่อลมหายใจของเธอไปได้อีกพักใหญ่ แต่ปรากฏว่า วันนี้ศาลนักการเมืองบอกไม่ต้อง เพราะให้โอกาสคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำพยานมาไต่สวนอย่างเต็มที่แล้ว ตามคำร้องของจำเลยที่อ้างนั้นจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ จึงให้ยกคำร้องของจำเลย พร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ 25 ส.ค.2560 เวลา 09.00 น. ดังกล่าว เป็นอันว่าทุกอย่างจบ...เงิบไปก่อนขึ้นเขียง 

  
โดยคำวินิจฉัยที่ศาลระบุ กรณีนี้ คือ ตามที่ทนายจำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 7 ก.ค.2560 และคำร้องเพิ่มเติมฉบับลงวันที่ 11 และ17 ก.ค.2560 ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 212 โดยโต้แย้งว่าบทบัญญัติในมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ.2542 ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 3,25,29,235 วรรคหกโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านฉบับลงวันที่ 7 ก.ค.2560 และคำร้องโต้แย้งคัดค้านเพิ่มเติมฉบับลงวันที่ 20 ก.ค.2560 ว่า ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 5 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 277 บัญญัติให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอาจไต่สวนหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2560 มาตรา 235 วรรคหก จะใช้ถ้อยคำว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมให้ศาลมีอำนาจไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ แต่ก็มีความหมายเดียวกัน ดังนั้นบทบัญญัติในมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 จึงไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
       
       

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การพิจารณาคดีนี้ ศาลให้โอกาสคู่ความทั้งสองฝ่ายนำพยานหลักฐานเข้าไต่สวนเพิ่ม โดยโจทก์ยื่นบัญชีเพิ่มเติม 21 ครั้ง ไต่สวนพยาน 15 ปากใช้เวลาไต่สวน 10 นัด จำเลยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม 51 ครั้ง ไต่สวนพยาน 30 ปากใช้เวลาไต่สวน 16นัด ซึ่งให้โอกาสคู่ความทั้งสองฝ่ายนำพยานมาไต่สวนอย่างเต็มที่แล้ว ตามคำร้องของจำเลยที่อ้างนั้นยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 212 ที่ศาลจะต้องส่งความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย จึงให้ยกคำร้องของจำเลย

 

โดยท้ายคำวินิจฉัย ศาลยังระบุด้วยว่า หากคู่ความทั้ง 2 ไม่ติดใจยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดี ถือเป็นเสร็จการไต่สวนคดี และนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ 25 ส.ค.2560 เวลา 09.00 น. นี้เลย