เป็นแบบอย่างที่ดี!!!น่าทึ่งคสช.ยกเชียงรายเป็นต้นแบบ ธรรมนูญสุขภาพ หลักประกันความเป็นอยู่เมื่อสูงอายุ (คลิป)

ผู้สื่อข่าว"ทีนิวส์"รายงานว่าระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าศึกษาดูงานในพื้นที่ จงเชียงราย โดยหนึ่งในนั้นมีวัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งได้จัดให้มีกิจกรรมเรียกว่างาน"ฮอมผญ๋าธรรมนูญสุขภาพ พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นและผู้สูงอายุ สู่ชุมชนสุขภาวะ" ภายใต้กิจกรรมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติสัญจร โดยภายในงานนอกจากจะมีการจัดเวทีเสวนาเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งนำมาสู่การจัดทำธรรมนูญสุขภาพ ตำบลป่าหุ่งและธรรมนูญสุขภาพผู้สูงอายุของโรงเรียนผู้สูงอายุวัดหัวฝายฯ จากวิทยากรซึ่งเป็นปราชญ์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อาทิ พระครูปิยวรรณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย นายนิรันดร์ แปงคำ ผู้ประสานงานสภาองค์กรชุมชน ตัวแทนจากอบต.สันกลางและอบต.ป่าหุ่ง

ขณะเดียวกันภายในบริเวณวัดหัวฝาย ซึ่งเปิดให้เป็นโรงเรียนผู้สูงอายุ ยังได้จัดให้มีนิทรรศการการโชว์นวัตกรรมต่างๆด้านสุขภาพ กิจกรรมสาธิตงานฝีมือต่างๆของกลุ่มผุ้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องใช้เสื้อผ้าพื้นบ้าน การประดิษฐ์ดอกไม้และกระเป๋า ตามโครงการยายสอนหลาน ที่ได้นำเอาผู้สูงอายุที่มีฝีมือในการทำมาสอนใฟห้กับลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังให้ได้สืบทอ และร่วมแลกเปลี่ยนในฐานการเรียนรู้ต่างๆอาทิหมอเมืองป่าหุ่ง กายภาพบำบัด พิธีกรรมบำบัด และตลาดนัดสีเขียวเป้นการนำผลผลิตท้องถิ่นมาโชว์และจำหน่ายในราคาถูก

โดย พล.ร.อ.ณรงค์ เปิดเผยว่ากิจกรรมคณะกรรมกรสุขภาพแห่งชาติสัญจรครั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมจากระดับชาติเชื่อมโยงกับระดับพื้นที่ โดยจังหวัดเชียงรายถือเป็นจังหวัดต้นแบบหรือโมเดลของการเป็นพื้นที่นำรน่องการดำเนินการด้านสุขภาพ เนื่องจากมีศักยภาพและความพร้อมด้านองค์ความรู้ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะมีสมัชชาสุขภาพจังหวัดเชียงราย ที่สามารถขัเคลื่อนประเด็นนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพของพื้นที่ตามพระราชบัญญัติสุขภาพ พ.ศ.2550 ได้เป็นอย่างดี โดยทุกคนจะต้องมีการเตรียมความพร้อมไม่เฉพาะเพียงช่วงสูงอายุเท่านั้น ควรเตรียมตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งเรื่องการเตรียมสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ เตรียมความพร้อมด้านการเงินไว้รักษาตัวตอนเจ็บไข้ และเตรียมองค์ความรู้เพื่อดูแลตนเองและคนรอบข้างในสังคมด้วย

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่าที่าสำคัยพื้นที่ จ.เชียงรายมีทุนภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพหรือเรียกว่าการแพทยืพื้นบ้านแบบล้านนา โดยเแพาะกลุ่มหมอเมืองและสมุนไพรประจำถิ่น จึงต่อยอดและสังคายนาองคืความรู้หมอเมืองอย่างจริงจัง พัฒนาระบบและตำราอ้างอิง เพื่อนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ ในรูปแบบของธรรมนูญสุขภาพทั้งของตำบลและชุมชนขึ้น ซึ่งธรรมนูญไม่ได้เป็นข้อระเบียบหรือข้อบังคับ แต่เป็นแนวทางการดำเนินการที่ทุกพื้นที่ของประเทศสามารถนำไปดำเนินการแล้วได้ประโยชน์ด้านสขุภาพแก่ท้องที่นั้นๆ