ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

              วันที่ 22 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายบู แกนแปะ อายุ 68 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และนายยุทธพัฒน์ เพ็ชรประเสริฐ ตัวแทนกลุ่มทหารผ่านศึกพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แจ้งว่า นายบู ซึ่งขาขาดทันทีเพราะถูกกับระเบิดในปี 2519 ระหว่างทำหน้าที่เป็นพลนำทางให้กับตำรวจตระเวนชายแดน ช่วงที่หมู่บ้านสันรอชะงันยังไม่ถูกเขมรแดงบุกเผา ฆ่าและทำลาย แต่ปัจจุบันนายบูได้รับการช่วยเหลือเพียงแค่การออกบัตรทหารผ่านศึกชั้นสี่ และได้รับเงินตอบแทนรายเดือน ๆ ละ 3,000 กว่าบาท กระทั่งเมื่อปี 2557 ได้ทำหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกา ผ่านสำนักราชเลขาธิการสำนักราชวัง เพื่อทูลขอปศุสัตว์มาเลี้ยงเป็นสมบัติบั่นปลายชีวิต จนมีหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดสระแก้ว เข้ามาช่วยเหลือ 

ตอบแทนให้แค่นี้หรือ!? หนุ่มใหญ่วัย68 อดีตทหาร เตรียมร้องสำนักราชเลขาฯ หลังถูกยึดวัว 2 ตัว จากการยื่นถวายฏีกาคืน!!

            นายยุทธพัฒน์ กล่าวว่า หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเพื่อเอาผลงาน กระทั่งลุงบูได้รับมอบโคจากหน่วยงานทหารแซร์ออ จำนวน 2 ตัว มาเลี้ยง ซึ่งมารู้ภายหลังว่า เป็นการให้ยืมเพื่อไปเลี้ยงขยายพันธุ์เท่านั้น ตอนที่เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าจะมาเอาวัวคืน และเมื่อวันที่ 15 ก.ค.เจ้าหน้าที่ก็มาเอาวัวกลับไป ทั้งที่แม่โคทั้งสองตัวกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ส่วนลูกโครุ่นอีกตัวซึ่งยังติดแม่  ก็ร้องเรียกหาแม่ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา จึงนำเรื่องราวมาเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย ทำให้หน่วยงานทหารแซร์ออ อ.วัฒนานคร ได้เรียกตัวลุงบูไปเพื่อเจรจาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา และจะคืนวัว 2 ตัวกลับมาให้เลี้ยงเช่นเดิม ในลักษณะเดิมอีก คือทำสัญญาให้ยืมมาเลี้ยงอีก 4 ปี 

ตอบแทนให้แค่นี้หรือ!? หนุ่มใหญ่วัย68 อดีตทหาร เตรียมร้องสำนักราชเลขาฯ หลังถูกยึดวัว 2 ตัว จากการยื่นถวายฏีกาคืน!!

             ทั้งนี้ ได้ปรึกษากับคุณลุงบูแล้วว่า ตกลงจะไม่รับข้อเสนอดังกล่าว เพราะลุงบูแกเสียกำลังใจมาก พร้อมทั้งจะนำลูกวัวรุ่นไปคืนหน่วยงานทหารแซร์ออ โดยจะทำหนังสือร้องเรียนและรายงานเหตุการณ์นี้ไปที่สำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวังอีกครั้ง เพื่อให้ทราบถึงการปฏิบัติของหน่วยงานรัฐครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า กรณีของลุงบูเป็นการปฏิบัติหน้าที่ช่วยชาติจนตัวเองขาขาด ตามหลักมนุษยธรรมและคุณงามความดี ให้เขาไม่ได้หรืออย่างไร ประเทศชาติจะตอบแทนเขาแค่นี้หรืออย่างไร 

             ทางด้าน พ.ท.อนุชา กลิ่นชะเอม ผู้บังคับการหน่วยส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ที่ 1 สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ต.แซร์อ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ค.60 เจ้าหน้าที่ได้ประสาน นายบู แกนแปะ ให้เข้ามาที่หน่วยฯเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ โดยได้ซักถามข้อมูล พบว่า นายบู แกนแปะ ได้รับโคไถ่ชีวิตจากหน่วยงานไป จำนวน 2 ตัว เป็นเวลา 3 ปี ได้ลูกโคจำนวน 3 ตัว เป็นเพศผู้ 2 ตัว และได้จำหน่ายไปแล้วในราคา 28,000 บาท ส่วนเพศเมีย 1 ตัว ปัจุบันยังเลี้ยงอยู่ ขณะนี้ได้ผสมพันธุ์ไปแล้ว

ตอบแทนให้แค่นี้หรือ!? หนุ่มใหญ่วัย68 อดีตทหาร เตรียมร้องสำนักราชเลขาฯ หลังถูกยึดวัว 2 ตัว จากการยื่นถวายฏีกาคืน!!

             จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายถึงสัญญายืมใหม่ ตามโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ ของหน่วยส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ที่ 1 สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยสรุปมีข้อตกลงจะให้ยืมต่อในระยะเวลาการยืม 4 ปี นับจากวันที่ทำสัญญา และข้อกำหนดอื่นๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งนายบู แกนแปะ ได้รับทราบ เข้าใจ ตามข้อตกลงเอกสารแนบต่างๆ เป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ยังได้ให้ข้อแนะนำในการเลี้ยงโคเพิ่มเติมด้วย 

              ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พานายบู แกนแปะ ไปร่วมตรวจท้องโคทั้ง 2 ตัว ผลการตรวจพบว่า โคหมายเลข 219 ท้องได้ประมาณ 4 เดือน และโคหมายเลข 220 ท้องได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งหลังการสอบสวนเบื้องต้น ได้แจ้งทาง นายบู แกนแปะ ไปว่าอีกประมาณอาทิตย์หน้า จะทำการส่งมอบโคคืนให้ ส่วนรายละเอียดการจัดส่งและวันที่ เจ้าหน้าที่รอรับการอนุมัติจากทาง ผบ.อีกครั้งหนึ่ง  ส่วนกรณีการนำข้อมูลไปเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์นั้น เบื้องต้น จากการสอบถาม นายบู แกะแปะ แจ้งว่า ผู้ลงเฟสบุ๊กเป็นหลาน แต่รายละเอียด ไม่ทราบว่าลงข้อมูลอะไรไปบ้าง เพราะตนไม่ได้ให้ข้อมูลกับหลาน

ตอบแทนให้แค่นี้หรือ!? หนุ่มใหญ่วัย68 อดีตทหาร เตรียมร้องสำนักราชเลขาฯ หลังถูกยึดวัว 2 ตัว จากการยื่นถวายฏีกาคืน!!

             พ.ท.อนุชา กล่าวอีกว่า ตนในฐานะผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถให้วัวแบบให้ขาดได้ เพราะเป็นระเบียบเหมือนรถหลวง ผู้ที่จะให้ได้ต้องเป็นระดับ ผบ.ทบ. หากมีการนำเสนอเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักราชเลขาธิการฯ ตนก็คงต้องชี้แจงไปว่า เป็นการปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งเราได้ชี้แจงตั้งแต่ต้น พร้อมมีการทำสัญญาแล้วว่า เป็นการให้ยืมชัดเจน อาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ก่อนจะไปรับวัวกลับมาก็แจ้งล่วงหน้าเป็นปี เพราะลุงบอกว่า วัวท้องอยู่จึงทอดเวลาให้ไปอีกกว่า 9 เดือน  ทั้งนี้ ลุงรายนี้ก็สามารถมาทำสัญญาเพื่อนำกลับไปเลี้ยงได้เช่นเดิม ตามระเบียบอีก 3-4 ปี  ซึ่งก็เข้าใจว่า มีการถวายฏีกาและเคยปฏิบัติหน้าที่จนขาขาด ซึ่งทุกรายที่รับโคจากหน่วยก็ใช้ระเบียบอันเดียวกันหมด จึงอยากแจ้งให้เข้าใจด้วย

 

 

ภาพ/ข่าว ยุทธนา  พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสระแก้ว