สุดระทึก "สิงหาทมิฬ" ชี้ชะตาคดีสุดใหญ่"ระบอบทักษิณ" 3 คดีรวด หลังแผ่อิทธิพลทุกหย่อมหญ้านับ10 ปีจาก"ยุคทักษิณถึงหนูปู" ที่สุดก็มีวันขึ้นเขียง

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews

สุดระทึก...เดือนสิงหาคม 2560 ปีนี้ อาจเรียกว่าเป็น "สิงหาทมิฬ" ของพลพรรคเพื่อไทย-ลิ่วล้อนายใหญ่ก็ว่าได้ เนื่องเพราะเป็นเดือนที่จะชี้ชะตาคดีใหญ่แบบสุดใหญ่ "ระบอบทักษิณ" ที่แผ่อิทธิพลครอบงำการเมืองในไทยมากว่าทศวรรษ นับจากทักษิณ 1เมื่อปี 2544 ถึง หนูปี 2557 ถึง 3 คดีรวด ได้แก่ คดีสลายม็อบพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ผู้น้องเขยนายใหญ่ และพ่อใหญ่จิ๋ว-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ผู้นอมินี และพวกอีก 2 คนเป็นจำเลย

 

นอกจากนี้ยังมีคดี "อภิมหากาพย์แห่งการโกง-ทุจริตจำนำข้าว" บวกรวมไปอีกด้วย 2 คดี โดยแยกเป็น คดีฮั้วประมูล และปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "จีทูจีเก๊" หรือไม่ก็ "จีทูเจี๊ยะ" ก็ว่ากันไป โดยคดีนี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับอดีตนักการเมือง - เอกชน รวม 28 ราย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นคนใน "เครือข่ายนายใหญ่-ทักษิณ" ที่ตกเป็นจำเลย และควรจะบันทึกไว้ในที่นี้ด้วยว่า "บุญทรง" นั้น เป็นเด็กในคาถาของเจ๊ใหญ่-ภาคเหนือ...ที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อ...คอการเมืองก็รู้ว่าเป็นใคร

 

ส่วนอีกคดีจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกจาก "คดีโกงข้าวหญิงปู" ซึ่งเป็นดั่งหัวใจของคดีทั้งหมดของ "ระบอบทักษิณ" ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทย์ยื่นฟ้องเธอ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต ทำให้ประเทศเสียหายไปกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งมีการไต่สวนพยานนัดสุดท้ายไปเมื่อวานนี้ และความที่จำเลยของคดี เป็นดั่งไข่แดงของ "ระบอบทักษิณ" เราจึงเห็นทุกองคาพยพของเครือข่ายนายใหญ่ ออกมาเดินเกมบิดเบือนข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญของคดีให้สังคมไขว้เขวอยู่ตลอดเวลา...ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่มีอื่นใด...นอกจากหวังช่วย "นายหญิงน้อย" ตามคำสังของ "นายใหญ่" ก็แค่นั้น

 

ตามข้อเท็จจริง การดำเนินคดีกับองคาพยพของระบอบทักษิณ...ไม่ว่าเป็นใคร...ไม่ใช่เรื่องง่าย...แม้มีความเป็นไปได้...แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอำนาจทางการเมืองที่แผ่ขยายมา 10 กว่าปี ได้แผ่ซ่านซึมลึกลงสู่ทุกอณูของโครงสร้างสังคมไทย-ที่เป็นสังคมอุปถัมภ์ และถูกจริตกับสิ่งที่ "ทักษิณ" หยิบยื่นให้แบบที่ไม่เคยได้จากใครมาก่อน...โดยเฉพาะสายอำนาจนิยมอย่าง...ตำรวจบางกลุ่ม ทหารบางปีก และเกือบจะทั้งหมดของนักการเมืองท้องถิ่นบางภาค...ที่ทอดกายรับใช้ระบอบทักษิณอย่างไม่เสื่อมคลาย...แม้เวลาจะล่วงเข้ามาถึง พ.ศ.นี้แล้วก็ตาม เหตุนี้...การดำเนินคดีกับองคาพยพของระบอบทักษิณ...จึงไม่ใช่เรื่องง่าย...แม้มีความเป็นไปได้...แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย...ดูตัวอย่างจากคดีสลายม็อบพันธมิตรฯ ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ผู้น้องเขยนายใหญ่ และพวกเป็นจำเลย เรื่องเกิดเมื่อกลางปี 2551 แต่คดีถูกหมก-อยู่ในลิ้นชักในยุคที่เพื่อไทยเป็นใหญ่ และใช้เทคนิคทางกฎหมายยื้อมากว่า 8 ปี โดยเฉพาะการแต่งตั้งอัยการเข้ามาเป็นทนายให้ตัวเองของนายสมชาย ซึ่งองค์คณะผู้พิจารณาต้องสั่งให้จำเลยแต่งตั้งทนายความคนใหม่เข้ามา เพื่อพิจารณาคดีต่อ กระทั่งศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 59 โดยไต่สวนพยานนัดแรกเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 59 หรือเป็นคดีเมื่อกว่า 1 ปีก่อนในยุค คสช.นี่เอง

 

อย่างไรก็ตาม "คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต" เมื่อ "ก่อกรรมก็ย่อมต้องได้รับเวร" ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด โดยทั้ง 3 คดี ผ่านการนัดสืบพยานนัดสุดท้ายไปแล้วทั้งสิ้น และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาทั้ง 3 คดี ในเดือนสิงหาคม หรือ สิงหาทมิฬแบบจี้ติดกันชนิดหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

 

เริ่มจาคดีนายสมชาย สลายม็อบพันธมิตรฯ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา‪ในวันที่ 2 ส.ค. หรืออีกแค่ 10 วันข้างหน้านี้ ขณะที่ "มหากาพย์แห่งการโกงข้าว" ทั้งของ "หนูปู" และ "พ่อเลี้ยงบุญทรง" ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันเดียวกัน คือ 25 ส.ค.นี้ไปเลย...

 

จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้...แต่เริ่มมีกระแสพูดกันแล้วว่า...นับจาก คสช. เข้ามาบริหารประเทศกว่า 2 ปีที่ผ่านมา...สิงหาคมปีนี้...บ้านเมืองอาจเดินทางเข้าสู่จุดเดือดอีกครั้งก็เป็นได้...หากฝ่ายรัฐฯ ไม่เตรียมตั้งรับดีๆ และคนไทยบางกลุ่มยังพร้อมจะเป็นเบี้ยให้...นายใหญ่ใสเข้าชนเพื่อหวังล้มกระดาน...อีกรอบ เพราะวานนี้หน้าศาลฯ ก็ชัดเจนแล้วว่า...เครือข่ายทักษิณกะเกณฑ์คนมาเพื่อโชว์พลังให้กำลังใจ "นายหญิงน้อย-หนูปู" แบบไม่สนใจว่าเป็นพื้นที่ศาล...เหตุนี้หลายผู้รู้หลายคนจึงบอกว่า...อย่าดูเบา "สิงหาทมิฬ" หากไม่ตั้งรับให้ดี...วุ่นแน่...