วันนี้เมื่อ100ปี ร.6ทรงเหยียบใบฝรั่งตัดไม้ข่มนามร่วมสงครามรักษาสันติภาพโลก

วันนี้เมื่อ100ปี ร.6ทรงเหยียบใบฝรั่งตัดไม้ข่มนามร่วมสงครามรักษาสันติภาพโลก

สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค .2457 แต่ประเทศไทย หรือสยาม ในขณะนั้น ได้ประกาศร่วมสงครามโดยเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม.2460   บรรยง พงษ์พานิช เล่าถึงเหตุการณ์นี้ในเฟซบุ๊ค Banyong Pongpanich เรื่อง สยามกับสงครามโลกครั้งที่ 1ซึ่งแสดงให้เห็นภาพ เหตุการณ์ประกอบพิธีกรรมประกาศสงคราม ตามโบราณราชประเพณี ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ทรงเป็นผู้ประกาศ  เพื่อร่วมรักษาสันติภาพของโลก

 

 

 

“ วันนี้เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน (22 กรกฎาคม พศ.2460) เป็นวันที่ สยามประเทศได้ประกาศสงครามกับประเทศเยอรมัน และจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งนั่นก็หมายถึงการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่1 ที่ดำเนินมาได้เกือบสามปี(เริ่ม 28กค.2457) โดยเราได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร(Allied Power)ซึ่งนำโดย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร รัสเซีย อิตาลี สหรัฐอเมริกา
            การทำพิธีปฐมกรรมประกาศสงคราม ตามโบราณราชประเพณีนั้น ทำในพระบรมมหาราชวัง โดยร.6 ทรงเครื่อง"มหาพิชัยยุทธ"สีแดงทั้งชุด ถือพระแสงดาบคาบค่าย และทัดดอกลำเจียกที่พระกรรณขวา ทัดใบมะตูมที่พระกรรณซ้าย พระหัตถ์ขวาถือช่อชัยพฤกษ์ ทรงเหยียบใบฝรั่งเพื่อตัดไม้ข่มนาม
          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ทรงโปรดเกล้าฯให้ส่งกองทหารอาสา 1,284 นายไปร่วมรบในสงครามโดยร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส โดยมีพลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์(ภายหลังเป็นพลเอกพระยาเทพหัสดินทร์)เป็นแม่ทัพ และมีพันเอกพระยาเฉลิมอากาศ(สุณี สุวรรณประทีป)เป็นผู้บังคับการกอง โดยได้เดินทางถึงเมืองมาร์เซย์ในวันที่ 31กค. 2461 ก่อนที่สงครามจะยุติลงในวันที่ 11พย.2461 ซึ่งในการนี้ได้มีทหารไทยเสียชีวิตไปรวม 19 นาย จึงทรงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ทหารอาสาเพื่อเป็นอนุสรณ์ ปรากฎอยู่บนสนามหลวงด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจนทุกวันนี้(ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ)
       ในสงครามโลกครั้งที่1 นี้ ฝ่ายสัมพันธมิตรได้มียี่สิบประเทศที่ส่งทหารเข้าร่วมรบโดยมีทหารร่วมรบรวม 42.25ล้านคน และเสียชีวิตไป5.7ล้านคน กับบาดเจ็บอีก 13 ล้านคน ...การที่ร.6 ทรงเล็งเห็นการณ์ไกลเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตรชนะสงครามครั้งนี้ส่งผลประโยชน์ใหญ่หลวงให้กับประเทศในด้านการต่างประเทศ เพราะทำให้เราร่วมอยู่ในสถานะผู้ชนะสงคราม สามารถแก้ไขเรื่องสิทธิสภาพเหนืออาณาเขตที่เคยเสียเปรียบประเทศตะวันตกได้

 

 

 

 บังเอิญในปลายปีนั้นเกิดไฟไหม้ใหญ่ แถวป้อมปราบ เลยทรงโปรดให้เจ้าพระยายมราช สร้างวงเวียนขึ้นพร้อมตัดถนนสามสายมาบรรจบ พระราชทานนามว่า"วงเวียน 22 กรกฎาคม" และชื่อถนน 3 สายว่า ไมตรีจิตต์-มิตรพันธ์-สันติภาพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเข้าร่วมสงครามครั้งนั้น
         

นี่คือเหตุการณ์ของวันนี้เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

 

 

 

Cr.FB : Banyong Pongpanich