ย้อนเกล็ด สุดเจ็บจี๊ด!! รองผกก.เอก หุ่น คนดัง โพสต์เฟซ ถามจากใจ “ถ้าปลัดโดนตร.จับ ตรวจฉี่ จับอาวุธบ้าง จะรู้สึกอย่างไร!?

วันที่ 23 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานว่า จากกรณีโลกโซเชียลในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.พัทลุง จับกุม ส.ต.ต.ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ยะหา จ.ยะลา ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ข้อหามีอาวุธสงครามของทางราชการและอาวุธปืนพกสั้นพร้อมดำเนินคดี ต่อมา พ.ต.ท.เอกราช หุ่นงาม รอง ผกก. ป. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นายตำรวจชื่อดังในสังคมโซเชียลจากการโพสต์ต่อต้านกฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะ ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค “ สารวัตรเอก หุ่น” มีแฟนเพจติดตามกว่า 70,000 คน ระบุว่า “เรื่องที่เป็นข่าวกันอยู่กรณีปลัดตั้งด่านตรวจแล้วจับอาวุธปืนตำรวจสามจังหวัดใต้ ผมในฐานะตำรวจคนหนึ่งที่รักอาชีพนี้มากและให้เกียรติกับอาชีพของผมมากเป็นพิเศษ จะไม่ขอพูดอะไรมาก เพียงแค่อยากจะถามปลัดคนนั้นสั้นๆว่า "ถ้าผมตั้งด่านแล้วจับคุณตรวจฉี่หาสารเสพติดถึงสองครั้ง แล้วไม่พบก็จับอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ไม่มีใบพกพาแต่มีเหตุความจำเป็นต้องพกพาของคุณแบบนั้น คุณจะรู้สึกยังไงกับผมบ้าง จะรักผมมากขึ้นหรือเปล่าครับ" เอาไปคิดดูนะแล้วตอบกับตัวเองไม่ต้องมาตอบผม!!

พ.ต.ท.เอกราช หุ่นงาม รอง ผกก. ป. สภ.เมือง กล่าวว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวยืนยันว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะการจับตำรวจตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดถึง 2 ครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน( อส.) ยืนจับกลุ่มรอลุ้นผลการตรวจ เพื่อให้เจอสารเสพติด ส่วนการจับกุมอาวุธสงครามพบว่าเป็นปืนที่เบิกมาใช้เพื่อปฏิบัติงาน หากนำออกนอกพื้นที่ก็จะเป็นระเบียบภายในขององค์กรตำรวจที่สามารถดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่นเดียวกับปืนพกสั้นที่ไม่มีใบพกพา ก็สามารถพกได้หากเดินทางไปพื้นที่เปลี่ยวและเสี่ยงอันตราย เนื่องจากเชื่อว่าการพกปืนดังกล่าวไม่น่ามีผลกระทบกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสบเหตุร้ายโดยซึ่งหน้าก็จะต้องเข้าระงับเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

นายอุดมพร คชหิรัญ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือนาท ภูวนัย ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า ตนเคยทำหน้าที่นายกองเอกควบคุมดูแล อส.ทั้งจังหวัด ยืนยันว่าการตั้งด่านของปลัดอำเภอซึ่งไม่มีอำนาจเต็ม ควรจะต้องมีตำรวจเข้ามาร่วมเนื่องจากมีตำรวจจะมีอำนาจในการปรับ จับกุม คุมขัง ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องใช้หลักรัฐศาสตร์เข้ามาปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอย่าทำให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้น สำหรับประเด็นนี้ผู้รับผิดชอบจะต้องดูเจตนาของผู้พกพาอาวุธปืน และประสานไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

 

ภาพ/ข่าว นิพล ทองเก่า ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ประจวบคีรีขันธ์