- 23 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 23 ก.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงงานว่า ที่บริเวณ “ไร่เกษมสุข” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของนายทวี สิขิวัฒน์ อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 197 หมู่ 3 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวชมและผักผ่อนในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งมีนำเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานมาปลูกในแปลงนา จนเจริญงอกงามเขียวชอุ่มเป็นบริเวณกว้างและพัฒนาพื้นที่โดยสร้างสะพานไม้ยกระดับสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร สามารถเดินเที่ยวชมศึกษาการปลูกข้าวและพืชผลอื่น ๆ ทั่วบริเวณอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีการสาธิต และจัดนิทรรศการเกี่ยวกับอาชีพการเกษตรตั้งแต่ครั้งโบราณมาจนถึงปัจจุบัน มีการสะสมข่าวของเครื่องใช้เก่าแก่ โบราณอีกหลายชนิด และน่าจะเป็นแปลงนาที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชิงอนุรักษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้
นายทวี สิขิวัฒน์ อายุ 71 ปี กล่าวว่า ตระกูลของตนมีอาชีพทกการเกษตรและเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาตลอด ในขณะที่นายกิตติกร อ่อนจันทร์ หรือ “เคน” อายุ 24 ปี หลานชายซึ่งเรียนจบวิศวะจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่กลับสนใจในการสืบสานงานด้านการเกษตรตามแนว เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 จนเมื่อเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา นายกิตติกร หลานชาย ได้เดินทาง เข้ากราบพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัว ร 9 และได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานมาจำนวน 1 ถุง ประมาณ 200 เม็ด นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ต่อมาทางบุคลากรใน อบต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ ที่เดินทางไปกราบพระบรมศพ ฯได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานเช่นกัน ได้นำมาอบสมทบให้อีกประมาณ 1,000 เม็ด
ตนจึงทำการพัฒนาแปลงนาข้าว ไถพรานดินเตรียมปลุกเมล็ดข้าวพระราชทาน จนเมื่อวันพืชมงคลที่ผ่านมา ได้ทำการหว่านข้าวทั้งหมดลงในแปลงนาที่เตรียมไว้ จนมาบัดนี้ต้นข้าวเจริญงอกงามเต็มที่และกำลังจะในเร็ว ๆ นี้ โดยตนตั้งใจว่าจะต้องขยายพันธุ์ข้าวพระราชทนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเมล็ดพันธุ์ข้าวแจกจ่ายเพื่อนบ้านที่มีอาชีพทำนา นอกจากนี้จะปลูกในไร่เกษมสุขของตน ให้พื้นที่เขียวขจีเต็มไปด้วยต้นข้าวพระราชทานดังกล่าว โดยตนและหลานจะดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 9 ตลอดไป จนมีนักน่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำอำเภอทุ่งใหญ่ ไปโดยปริยาย
ทางด้านนายกิตติกร อ่อนจันทร์ หรือ “เคน” กล่าวว่า หลังจากมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาชมแปลงนามากขึ้นเรื่อย ๆ ตนแบละคุณตาจึงแปลงนาและพัฒนาพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมแปลงนา โดยจัดสร้างซุ้มดอกเห็ดสำหรับนั่งพักผ่อน หรือรับประทานอาหาร สร้างร้านจำหน่ายอาหารบริการนักท่องเที่ยว สร้างสะพานไม้ยกระดับไปตามพื้นที่ว่างในแปลงนา เพื่อให้ทุกคนสะดวกในการเดินเที่ยวชมแปลงนา หลังจากนี้เมื่อข้าวออกรวงและถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวคาดว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวชมมากยิ่งขึ้น เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วจะแบ่งให้เพื่อนบ้านที่มีอาชีพทำนา นำเมล็ดพันธุ์ไปปลุกขยายพันธุ์ออกไปเรื่อย ๆ
จึงขอฝากถึงผู้ที่ได้รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวมาจากพระราชวัง ขอให้นำไปปลูกขยายพันธุ์ เพื่อเป็นการบูชาข้าวพระราชทาน แทนที่จะนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปเก็บไว้บนหิ้ง เป็นการร่วมแรงร่วมใจช่วยกันขยายพันธุ์ต้นกล้าของพ่อหลวงให้ได้มากที่สุดต่อไป ซึ่งจะเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เราทำเพื่อพ่อหลวงของเราและจะได้ร่วมกันภูมิใจและแสดงออกถึงความจงรักภักดี และยืนยันที่จะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเดินตามรอยพ่ออย่างจริงจังต่อไปซึ่งเป็นคุณตาของ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในพื้นที่จนมีคนรู้จักมากมาย เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ที่คิด และทำทั้งๆที่เด็กหนุ่มคนนี้เรียนจบวิศวกร แต่หันมาทำนาทำไร่ เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก ในเนื้อที่ 20 ไร่ ในบ้านเกิดจนมีนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้รู้จักและเดินทางกันมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย จนต้องเปิดเป็นร้านอาหารแบบพอเพียงขึ้นเพื่อให้บริการกับผู้คนที่มาดูงาน และท่องเที่ยว.
ข่าว / นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช
(ภาพ..ทีมข่าวพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช)