ต่างกันราวฟ้ากับเหว!!! ศาลสั่งคุก 6 แกนนำพธม.-ไม่รอลงอาญา แต่แปลกแกนนำเหลืองไม่มีใครฟูมฟาย-กดดันสังคม ขณะบางสีเริ่มขู่ฟ่อ ๆคนไทย "คดีหญิงปู"

 

ต่างกันราวฟ้ากับเหว!!! ศาลอุทธรณ์สั่งคุก 6 แกนนำพธม.-ไม่รอลงอาญา คดีขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2551 แต่แปลกแกนนำเหลืองไม่มีใครฟูมฟาย-กดดันสังคม ทั้งที่ก็มีมวลชนอยู่ไม่น้อย ต่างจากกลุ่มการเมืองบางสี ที่เริ่มขยับ ออกมาข่มขู่คนไทย พร้อมสร้างวาทกรรมแปลก ๆ เพื่อบดเบือนข้อเท็จจริง คดี "โกงข้าวหญิงปู" ที่จะมีคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค.นี้ 

วันนี้ (24 ก ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา คดี 6 แกนนำพันธมิตรฯ บุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551 ขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ.4925/2555  พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 82 ปี, นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 69 ปี, นายพิภพ ธงไชย อายุ 71 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 67 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 71 ปี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 44 ปี ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน หรือกลุ่มการเมืองสีเขียว และอดีตผู้ประสานงาน พธม. เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกโดยกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์กรณีบุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 358, 362 และ 365
       
       
โดยอัยการโจทก์ ฟ้องระบุความผิดว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2551 ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งมีจำเลยดังกล่าวเป็นแกนนำได้จัดปราศรัยชักชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน  โดยเคลื่อนขบวนฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำเนียบรัฐบาลและกระจายกำลังปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียง กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ  เพื่อกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว

 คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งหกจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการและร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดในความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการ จำคุกคนละ 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 2 ปี

 

อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี โดยในวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายสนธิ จำเลยที่ 2 มาจากเรือนจำกลางคลองเปรม ส่วนจำเลยอีก 5 คนก็เดินทางมาศาลทั้งหมด เพราะได้ประกันตัวไปสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ วงเงินคนละ 200,000 บาท 

 

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 6 เป็นความผิดฐานร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการโดยทำให้เสียทรัพย์ แต่เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้นถือว่าหนักเกินไป เห็นควรแก้โทษให้เหมาะสม พิพากษาให้จำคุกคนละ 8 เดือนโดยไม่รอลงอาญา 

อย่างไรก็ดี ผู้สังเกตการณืทางการเมืองระบุว่า การเดินทางมาฟังคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ของ 6 แกนนำพันธมิตรฯ ไม่สร้างความหนักใจให้แก่ฝ่ายบ้านเมือง และกระบวนการยุติธรรม เพราะแกนนำเสื้อเหลืองต่างยอมรับในกระบวนการยุติธรรม แม้จะยังมีมวลชนอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช้มวลชนกดดันใด ๆ แก่สังคม

 

ต่างจากการเมืองกลุ่มเสื้อแดงที่เริ่มขยับ เออกมาข่มขู่คนไทย พร้อมสร้างวาทกรรมแปล ๆ เพื่อบดเบือนข้อเท็จจริง คดี "โกงข้าวหญิงปู" อาทิ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ที่ออกมาระบุว่า "คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่การทุจริต เป็นเรื่องการดำเนินนโยบาย" โดยเขายังอ้างว่า คดีนี้เป็นคดีการเมือง พร้อมยังขู่คนไทยไปด้วยในตัวว่า "ดูจากวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ค่อนข้างมาก สะท้อนว่าแรงสนับสนุนไม่เสื่อมถอย แม้จะข่มขู่ให้หวาดกลัวก็ไม่ได้ผล หากผลการตัดสินออกมาแล้วมวลชนเห็นว่าไม่เป็นธรรมน่าจะมีแรงกระเพื่อมพอสมควร จึงขอให้ฝ่ายผู้มีอำนาจได้นำเรื่องนี้พิจารณาด้วย" 

 

นอกจากนี้ ยังมีความเห็นในโลกออนไลน์ทำนอง...หากยิ่งลักษณ์ ต้องติดคุกจากคดีโกงข้าว...แผ่นดินนี้ จะลุกเป็นไฟ เผยแพร่อีกเป็นจำนวนมาก