ถึงว่า...ทำไมร้อนรน-ดิ้นพล่านนัก!! ถลก"วัฒนา" เชียร์ปูแบบสุดติ่ง ที่แท้"โกงบ้านเอื้ออาทร" ตามหลอนสุดขีด เหตุโทษคดีนี้ถึงตาย-ประหารชีวิต

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews

 

ถึงว่า...ทำไมร้อนรน-ดิ้นพล่านนัก!! ถลก "วัฒนา" ออกมาเชียร์ "หญิงปู" แบบสุดติ่งไม่สนใจหน้าอินทร์-หน้าพรหม แถมเย้ย คสช. แบบไม่เห็นอยู่ในสายตา ที่แท้ "คดีโกงบ้านเอื้ออาทร" ที่ป.ป.ช. จ่อเชือดค้ำคออยู่นี่เอง โดยรอบนั้นนายวัฒนา กับพวกเครือข่ายทักษิณ ในยุครัฐบาลนายใหญ่ เรียกรับสินบน ผิดอาญา มาตรา 148 ซึ่งโทษสูงสุดของมาตรานี้ ถึงประหารชีวิต ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุข 


ความเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้ คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตา "เขยซีพี นายวัฒนา เมืองสุข" โดยเฉพาะปลุกระดมเสื้อแดงให้มาเชียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันพิพากษาคดีทุจริตขำนำข้าวในวันที่ 25 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องมาสัปดาห์ 2 สัปดาห์เข้านี่แล้ว


อย่างไรก็ตาม หากมองลึกลงไปในก้าวย่างของนายวัฒนา และตั้งคำถามว่าเหตุใดเขาจึงเล่นบทหัวหมู่ทะลวงฟันโดยไม่สนใจหน้าอินทร์-หน้าพรหมเช่นนี้ คำตอบที่จะเห็นเลา ๆ น่าจะประกอบไปด้วยเหตุผล 2 ประการ นั่นคือ หากไม่นับการช่วงชิงการนำ-ทำงานให้เข้าตานายใหญ่ หวังฟลุ๊คเผื่อจะได้เป็นผู้นำพรรค...เผลอ ๆ อาจได้นั่งเบอร์ 1 ทำเนียบ...ตามความฝันลม ๆ แล้ง ๆ อะไรไปนั่น

 

อีกประการน่าจะเป็นเพราะ "คดีโกงบ้านเอื้ออาทร" ที่ ป.ป.ช. จ่อเชือดค้ำคออยู่นี่เอง โดยรอบนั้นนายวัฒนา ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวกเครือข่ายทักษิณ ในยุครัฐบาลนายใหญ่ อาจถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น 

 

โดยขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ อสส.เห็นว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ตามข้อกฎหมาย จึงมีมติตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับ อสส. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ก่อนส่งฟ้องต่อศาล แต่ทั้งนี้ หากคณะทำงานร่วมหาข้อยุติไม่ได้ ทาง ป.ป.ช. ก็สามารถนำสำนวนมาส่งฟ้องต่อศาลด้วยตนเองได้ต่อไป

 

โดยมีข้อมูลเชิงลึกว่า นายวัฒนากับพวก ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการในโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยการที่ บริษัท พาสทีญ่า ได้โควตาเป็นคู่สัญญากับการเคหะแห่งชาติ 7 โครงการ 7,500 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสวนพลูพัฒนา โครงการผดุงพันธ์ โครงการนนทบุรี 1 โครงการนนทบุรี 3 โครงการสมุทรปราการ โครงการปทุมธานี ลำลูกกา คลอง 2 และโครงการกระทุ่มแบน 3 ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าเป็นคู่สัญญากับการเคหะแห่งชาติ แต่พบมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ เพื่อให้สามารถเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐได้

 

...เรื่องนี้นำมาสู่การสอบสวนข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ที่นำโดย พล.อ. สนธิ บุญรัตนกลิน...ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ ป.ป.ช.ทำงานต่อเมื่อ คตส. หมดหน้าที่ไป

 

...และเป็นเหตุให้นายวัฒนามีชนักติดหลังมาแต่นั้น...กระทั่งนำมาสู่การร้อนรน...เช่นทุกวันนี้

 

อนึ่ง สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 149 ตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวัฒนากับพวกนั้น บัญญัติว่า มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต