สานฝัน ลูกเด้งไทยไปโอลิมปิก 2020 เทเบิลเทนนิส ลงนามเมืองคิตะคิวชู

 

     

 

     นายพีรเดช พฤฒิพฤกษ์ นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มิสเตอร์ เคนจิ คิตาฮาชิ นายกเทศมนตรี เมืองคิตะคิวชู  และ นายณัฐวุฒิ เรืองเวช  รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา ฯลฯ เข้าร่วมใน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ เอ็มโอยู  (MOU) ระหว่าง สมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย กับเมืองคิตะคิวชู ในการร่วมมือกันทางด้านกีฬา ในการเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อมของนักกีฬา ในการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 และกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่ ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ  ที่ โรงแรมทาวอินทาวน์ 

     ข้อตกลงในครั้งนี้ เมืองคิตะคคิวชู จะเปิดค่าย ให้นักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย ได้ไปฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพ ทั้งนี้ เมืองคิตะคิวชู จะดูและ ให้การสนับสนุน เรื่องที่พัก สนามฝึกซ้อม และค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

 

 

       

นายณัฐวุฒิ เรืองเวช กล่าวว่า มีความยินดีเป็น ที่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีข้อตกลง ร่วมมือ เพื่อความเป็นมิตรทางด้านกีฬา อย่างที่ทราบกันว่า ประเทศญี่ปุ่น จะได้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2020 จึงได้มีการจัดโครงการ โฮสต์ทาวน์ เพื่อให่การสนับสนุนนักกีฬา ในการเตรียมความพร้อม อันจะเป็นประโยชน์ ต่อนักกีฬา ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศที่ได้ลงนามทำข้อตกลงกัน ที่ผ่านมา มีหลายเมืองของญี่ปุ่นอยากให้นักกีฬาไทย ไปเข้าค่ายฝึกซ้อม  แต่ท้ายที่สุด กกท. เลือกทำสัญญา กับเมืองคิตะคิวชู เนื่องจากเล็งเห็นว่า เป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีความสวยงาม ซึ่งมั่นใจว่า จะดูแลนักกีฬาไทยได้เป็นอย่างดี

    ด้าน มิสเตอร์ เคนจิ คิตาฮาชิ กล่าวว่า  ดีใจที่นักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย จะไปเข้าค่ายฝึกซ้อมในจังหวัดของตน เพราะที่ผ่านมา เมืองคิตะคิวชู มีข้อตงลงกับประเทศไทยในหลายๆ  ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ และด้านบันเทิง มีภาพยนตร์ และ ละครหลายเรื่องไปถ่ายทำที่นั่น ทำให้มีคนไทย ไปเที่ยวที่คิตะคิวชูมากขึ้น นอกจากนี้ ในปีหน้า จะมีการจัดการแข่งขัน เทเบิลเทนนิสรายการระดับนานาชาติ ที่เมืองนี้ เช่น เจแปนโอเพ่น การลงนามในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าเป็นจัวหวะและโอกาสที่ดี ที่จะพัฒนานักกีฬาทั้งสองชาติได้เป็นอย่างดี

 

 

    

ขณะที่นายพีรเดช พฤฒิพฤกษ์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการร่วสมมือกันครั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ส่วนตัว เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศญี่ปุ่น ที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกมาแล้วเมื่อ 1964 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง  ในปี 2020 ที่ญี่ปุ่นจะกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง เชื่อว่านักกีฬาจากทั่วโลก ต่างอยากจะไปที่ญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ 

      ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมเทเบิลเทนนิสไทย มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกมาตั้งแต่ ปี 2004 ที่ซิดนีย์ และมีมาตลอด โดยเฉพาะ ครั้งล่าสุด ที่ริโอเกมส์ นักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย สามารถไปแข่งขันได้ ถึง 3 คน  ยิ่งกว่านั้น การแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ ที่กรุงลอนดอน นักกีฬาไทย สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ การได้ไปเก็บตัว ที่ค่าย ในเมืองคิตะคิวชู ครั้งนี้ จะทำให้นักกีฬาไทย พัฒนาฝีมือได้เป็นอย่างดี เพราะญี่ปุ่นถือเป็นอันดับต้นๆ  ของวงการเทเบิลเทนนิสโลก  และยังมีแชมป์โลกคนแรกอีกด้วย การได้ไปที่ญี่ปุ่น เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับนักกีฬาไทย และทำให้ไทยมีโอกาสไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 มากขึ้น