อินไซด์ตลาดหุ้น!! สัญญาณดีต่อเนื่อง AQ เปิดโต๊ะเจรจาประนอมหนี้ “แบงก์กรุงไทย” ฉลุย จับตาบทสรุปดีลธุรกิจที่ดิน 4.3 พันไร่ เร็ว ๆนี้!?!

ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th

เกาะติดต่อเนื่องกับสถานการณ์อนาคต  บริษัท เอคิว  เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ  บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่โดนมรสุมลูกใหญ่กับภาพลักษณ์ในอดีต   จากกรณีเข้าไปเกี่ยวข้องกับแวดวงการเมืองในสถานภาพความเป็น บมจ.กฤษดามหานคร หรือ KMC จนเกิดเป็นปัญหาลูกโซ่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง    พิพากษาให้ร่วมกับจำเลยในคดีดังกล่าว ชำระคืนหนี้แก่ธนาคารกรุงไทย  ในจำนวนเงินมูลค่าสูงถึง 10,004  ล้านบาท  

ต่อมา  AQ  ยังโดนแรงเหวี่ยงอีกระลอกใหญ่   เพราะถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. )  ขึ้นเครื่องหมาย  SP  และ NP     จนมรสุมผ่านพ้น  AQ  ก็เริ่มมีข่าวดีให้ผู้ถือหุ้นใจชื้นขึ้นเป็นระยะๆ  โดยเฉพาะกระแสข่าวการรีเทิร์นกลับสู่กระดานหุ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้    !!!   (คลิกอ่านรายละเอียด  :  อินไซด์ตลาดหุ้น...ชุดใหญ่ไฟกระพริบ!! ข่าวล่า  AQ พร้อมรีเทิร์นซื้อขายแน่ๆ สิงหานี้ หลังประชุมรับรองงบ 59 ผ่านฉลุย นักลงทุน PP มั่นใจถือยาว!!) 

ล่าสุดบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ  ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560  เรื่องความคืบหน้าในคดีแพ่งของบจก. โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียลพาร์ค จำกัด กับธนาคารกรุงไทย ว่าทนายความของบริษัท โกลเด้นฯ  ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา อ้างว่า บริษัท โกลเด้นฯ และบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) เดิมมีภาระหนี้ตามคำพิพากษาในดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักทางการเมือง ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกัน

 

โดยผู้บริหารของบริษัทโกลเด้นฯ และผู้บริหารบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) ได้ร่วมกันเจรจาและตกลงประนีประนอมโดยบรรลุข้อตกลงในการเจรจาประนีประนอมยอมความกันแล้ว เพียงแต่รอการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ในการผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้เท่านั้น

 

ทั้งนี้ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย (โจทก์) ตกลงร่วมกันที่จะขอเลื่อนกำหนดอ่านคำพิพากษาของศาลออกไปอีกหนึ่งนัดเพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1 มีความประสงค์ที่จะประนีประนอมยอมความกับโจทก์ จึงเห็นสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 กันยายน 2560

 

อย่างไรก็ตาม แม้การอ่านคำพิพากษาของศาลจะเลื่อนออกไป แต่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรกับการการดำเนินงานของบริษัทหรือการกลับมาซื้อขายอีกครั้ง ซึ่งบริษัทฯยืนยืนว่ามีสัญญาณดีให้เห็น หลังจากการเข้าเจรจาหลายครั้งกับธนาคารกรุงไทย จึงทำให้บริษัทฯตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อศึกษาข้อมูลเรื่องที่ดิน 4,300 ไร่ ว่าควรจะพัฒนาไปในทิศทางใด หรือพัฒนาร่วมกับใครดีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด !!!