- 02 ส.ค. 2560
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2560 – วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เอาไว้ดังต่อไปนี้
ในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2560 – วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เอาไว้ดังต่อไปนี้ ... ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. จะมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ตลอดช่วง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โนรู” (NORU) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก จะมีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค.60 ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ เกือบตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค.
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -40 กม./ชม.
จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
จังหวัดกระบี่ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 1 - 2 ส.ค. มีเมฆบางส่วนและมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ
ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส