ยังรอความหวัง!! ชาวบ้าน 3 อำเภอในร้อยเอ็ดเดือดร้อนหนัก สะพานทรุดตัวใช้สัญจรไม่ได้มาหลายวัน วอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือด่วน (มีคลิป)

วันที่ 4 ส.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านดงกลาง ต.โคกกกม่วง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ว่า สะพานข้ามลำน้ำยังความยาว 200 เมตร กว้าง 7 เมตร ซึ่งเชื่อมระหว่างบ้านไข่นุ่น ต.นาเมือง อ.เสลภูมิ และ บ้านดงกลาง ต.โคกกกม่วง อ.โพนทอง ซึ่งเป็นของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2544 ได้เกิดชำรุดทรุดตัวลงตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค. 2560 เนื่องจากถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและรุนแรง จากสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่  ทำให้เสาตอหม้อตรงกลางสะพานมีการทรุดตัว  เป็นเหตุให้บริเวณช่วงกลางสะพานหักและแตกร้าว ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาซ่อมแซมให้  ทำให้ชาวบ้านใน 3 อำเภอเดือดร้อนมาหลายวันแล้ว  เนื่องจากไม่สามารถใช้สันจรผ่านไปมาได้  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าชาวบ้านและ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทโพนทอง ได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ไม่ให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านแล้ว เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย

 

โดยนายหัส ใคร่นุ่นนา อายุ 59 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11  บ้านดงกลาง ต.โคกกกม่วง อ.โพนทอง ซึ่งได้มาตรวจดูสะพานพร้อมกับชาวบ้านในวันนี้ ก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รีบลงมาซ่อมแซมสะพานข้ามลำน้ำยังแห่งนี้โดยด่วน ซึ่งในขณะนี้ได้เกิดมีการทรุดตัวจนทำให้พื้นสะพานและราวสะพานแตกร้าว  จนต้องปิดไม่ให้ใช้สัญจร  เนื่องจากเกรงว่าจะมีอันตรายกับผู้ใช้เส้นทาง ซึ่งเส้นทางนี้ชาวบ้านในอำเภอโพนทอง  อำเภอหนองพอก และอำเภอเมยวดี ใช้เป็นเส้นทางลัดผ่านไปยังตัวอำเภอเสลภูมิ และไปจังหวัดร้อยเอ็ด  เนื่องจากมีระยะทางใกล้กว่าเส้นทางอื่น  อีกทั้งในระยะนี้บางเส้นทางก็ถูกน้ำท่วม สะพานเส้นนี้จึงมีความจำเป็นสำหรับชาวบ้านใน 3 อำเภอเป็นอย่างยิ่ง

ด้านนายเริงศักดิ์  กระจ่างจันทร์ ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทโพนทอง ซึ่งก็ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ตนได้ออกไปทำการตรวจสอบสะพานดังกล่าวนี้แล้ว พบว่ามีการทรุดตัวของสะพาน  ซึ่งในขณะนี้การทรุดตัวคงที่แล้ว เพียงแต่มีการแตกร้าวของพื้นสะพานและราวสะพานบางส่วนเท่านั้น  ซึ่งตนก็ได้รายงานให้กับแขวงการทางหลวงชนบทจังหวัดทราบแล้ว  และยังได้ประสานไปยังกรมทางหลวงชนบทให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ  มาตรวจสอบโครงสร้างสะพานให้แน่ชัดอีกครั้งว่า โครงสร้างยังแข็งแรงอยู่หรือไม่ พร้อมทั้งจะได้เร่งซ่อมแซมในส่วนที่แตกร้าว เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะใช้สัญจรผ่านไปมา  ก่อนที่จะเปิดให้ใช้สัญจรได้ต่อไป

ภาพ/ข่าว สุเทพ  ลอยแก้ว   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค    สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ร้อยเอ็ด
(เรียบเรียงโดย / ชูชัย ดำรงสันติสุข : สำนักข่าวทีนิวส์)