“ใครก็ตามที่มีนิสัยคดโกงไม่ซื่อตรงต่ออาชีพทุจริตเท่ากับเป็นคนชั้นต่ำ ไร้เกียรติไม่อาจพบความเจริญ” พระสังฆราช ประทานพระโอวาทคณะแท็กซี่อาสา

จากกรณีเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จออก ณ ไพทีหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม บ่ายวันอาทิตย์ ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ประทานพระวโรกาสให้ พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำคณะแท็กซี่อาสาเฝ้าปฏิญาณตนเป็นอาสาสมัคร

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า

"ท่านทั้งหลายเป็นผู้มีปณิธานในการทำความดี โดยการตั้งตนเป็นแท็กซี่อาสา จึงแสดงสัจวาจาออกมาให้ปรากฏเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธปฏิมาที่มีพระนามว่า 'พระพุทธอังคีรส' อันเป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ประดิษฐานเป็นประธานแห่งวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้น และสถานที่แห่งนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารและพระสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ มากมายหลายพระองค์

เท่ากับว่าท่านไม่เพียงแต่ตั้งใจจะกระทำความดี แต่ท่านยังกล้าประกาศวาจาสัตย์ออกมาว่าจะกระทำความดี ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือได้ทรงเป็นพยาน เพราะฉะนั้น หน้าที่ที่ท่านจะต้องกระทำต่อไป นอกจากความดีในใจ และความดีในวาจาที่ประกาศออกมาแล้ว จึงได้แก่การกระทำดีอย่างแท้จริงและสม่ำเสมอด้วยความรับผิดชอบในคำพูดที่ได้กล่าวออกมาแล้ว จำเพาะต่อหน้าพระรัตนตรัย และเจ้านายทุกๆ พระองค์ที่ทุกท่านเคารพบูชา

ใครก็ตามที่มีนิสัยคดโกง ไม่ซื่อตรงต่อการประกอบอาชีพการงาน อีกทั้งยังไม่มีความสัตย์ซื่อต่อตนเอง ในอันที่จะประพฤติตนเป็นคนดีได้โดยตลอดรอดฝั่ง เผลอปล่อยตัวให้ตกอยู่ในอำนาจฝ่ายต่ำ กล้าที่จะกระทำบาป กระทำการอันทุจริต บุคคลนั้นย่อมเป็นคนน่าสงสาร เพราะเท่ากับเขาเป็นคนชั้นต่ำ เป็นคนไม่มีเกียรติ และเป็นที่คาดหมายได้ว่าจะไม่อาจพบกับความสุขความเจริญ

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนพุทธบริษัททั้งหลายไว้ว่า 'คนจะได้รับเกียรติ ก็เพราะความสัตย์'

ท่านทั้งหลายเป็นผู้ประกอบสัมมาชีพ มีหน้าที่ให้บริการแก่ผู้คน นับเป็นผู้มีเกียรติอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ยิ่งถ้าท่านเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ มีความจริงใจ และจริงวาจา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตนเป็นอาสาสมัครได้อย่างแท้จริงแล้ว ก็ยิ่งจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีเกียรติเพิ่มขึ้น ได้ชื่อว่าเป็นคนชั้นสูง และย่อมประสบความสุขความเจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสุขใจ และความเจริญใจที่บังเกิดขึ้นแก่ตัวท่านในทันที

ในขณะเดียวกัน ท่านย่อมได้ชื่อว่าเป็นพลเมืองดีของชาติ เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีของพระศาสนา และเป็นข้าแผ่นดินที่ดีของพระมหากษัตริย์ เป็นเกียรติยศอันสูงสุดในชีวิตที่น่าภาคภูมิใจยิ่งนัก"

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช