- 08 ส.ค. 2560
“บิ๊กตู่”ทำได้จริง!ลงเสาเอกบ้านคนจนบนที่ส.ป.ก.ยึดคืนจากนายทุน
พอช.ร่วมกับภาคีเครือข่ายสนับสนุนสร้างบ้านมั่นคงชนบทที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ในที่ดิน ส.ป.ก. 6 ครัวเรือนแรก ครัวเรือนละ 2.5 ไร่ จากทั้งหมด 389 ครัวเรือน โดยอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยครัวเรือนละ 40,000 บาท นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยง เรียนรู้ และวางแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมีส่วนร่วม ขณะที่กระทรวงเกษตรสนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงแพะเนื้อเป็นอาชีพ ครัวเรือนละ 32 ตัว ตั้งเป้าภายใน 6 เดือนจับแพะขายได้
ตามที่รัฐบาล โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญคือ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำที่ดินในเขต ส.ป.ก.ทั่วประเทศที่มีการครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือ
1. ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป 2. ที่ดินที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีมติให้เกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินสิ้นสิทธิเข้าทําประโยชน์แล้วและครอบครองโดยบุคคลที่มิใช่ผู้ได้รับการจัดที่ดิน มีเนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป และ 3. ที่ดินที่ศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ส่งมอบแก่สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแล้วและมีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป โดยนำมาจัดสรรให้เกษตรกรทั่วประเทศที่ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกิน ซึ่งในส่วนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้ร่วมสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรที่จะเข้ามาอยู่อาศัยและทำกินในที่ดิน สปก.ตามโครงการบ้านมั่นคงชนบท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีการจัดงาน ‘ยกเสาเอกโครงการบ้านมั่นคงชนบทในเขตที่ดินปฏิรูปตำบลสิงห์’ โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายบพิตร อมราภิบาล รองเลขาธิการ สปก. นายธีรพงษ์ พร้อมพอชื่นบุญ ผู้อำนวยการ พอช.สำนักงานภาคกลางและตะวันตก พ.อ.ปิยะพงษ์ กลิ่นพันธ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารราบที่ 9 ร่วมเป็นประธานในพิธี โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขบวนองค์กรชุมชนภาคกลางและตะวันตก เข้าร่วมงานประมาณ 200 คน
นายวัชรินทร์ วะกะมะนนท์ สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ส.ป.ก.จังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่ 36/2559 โดยยึดที่ดินที่มีการครอบครองที่ไม่ถูกกฎหมาย แล้วนำที่ดินส่งมอบให้แก่ ‘คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ’ (คทช.) เพื่อนำมาจัดสรรให้แก่เกษตรที่ยากจนและไร้ที่ดินทำกิน ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในรูปแบบสหกรณ์ โดยได้ยึดคืนพื้นที่ใน 5 อำเภอ (อ.เมือง, เลาขวัญ, พนมทวน, ด่านมะขามเตี้ย, และไทรโยค) รวม 16 แปลง เนื้อที่รวมกัน จำนวน 17,566 ไร่ โดยในอำเภอไทรโยคเป็นพื้นที่นำร่องในการนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่เกษตรกร มีที่ดินที่ยึดคืนมาจำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวม 2,978 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา นำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรในอำเภอไทรโยค จำนวน 389 ครัวเรือนๆ ละ 2.5 ไร่ เพื่อเป็นที่ดินสำหรับปลูกบ้านและเป็นที่ดินทำกิน รวมเนื้อที่ 977 ไร่ ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง 160 ไร่ แปลงหญ้าอาหารสัตว์รวม 1,455 ไร่ ถนนและพื้นที่อื่นๆ รวม 385 ไร่
ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ ส.ป.ก.ในตำบลสิงห์ที่นำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรมีความเหมาะสมที่จะเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะแพะเนื้อ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้สนับสนุนเงินกู้จากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร งบประมาณรวมจำนวน 84 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรกู้รายละ 217,000 บาท (รวมทั้งหมด 389 ครัวเรือน) สำหรับสร้างโรงเรือนเลี้ยงแพะ จำนวน 1 หลัง จัดซื้อพันธุ์แพะ เนื้อเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 30 ตัว เพื่อให้เกษตรกรนำมาเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพ สนับสนุนให้ปลูกแปลงหญ้า ต้นหม่อน และกระถิน เพื่อเลี้ยงแพะ ปลูกพืชผักสวนครัว รวมทั้งเลี้ยงกบหรือปลาดุกเพื่อเป็นอาหารและเป็นอาชีพเสริม นอกจากนี้ยังจัดสรรพื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ เพื่อปลูกเป็นแปลงหญ้ารวม และมีการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล พร้อมระบบประปาบาดาล ขนาดบ่อละ 12 ลูกบาศก์เมตรให้เกษตรกรใช้ด้วย
นายธีรพงษ์ พร้อมพอชื่นบุญ ผู้อำนวยการ พอช.สำนักงานภาคกลางและตะวันตก กล่าวว่า พอช.ไม่ได้มา สร้างบ้านให้ชาวบ้าน แต่คนที่จะสร้างบ้านคือเจ้าของบ้าน ซึ่งจะมาร่วมกันลงแรงสร้างบ้าน และเชื่อมโยงเป็นขบวนองค์กรชุมชน นำไปสู่การพัฒนาทั้งในเรื่องที่อยู่อาศัย อาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี สุขภาพ ฯลฯ เพื่ออนาคตของลูกหลานจะได้มีที่อยู่อาศัยและอนาคตที่มั่นคงต่อไป
“วันนี้เราเริ่มสร้างบ้านจาก 6 หลัง เพื่อไปสู่เป้าหมายรวมทั้งหมด 389 หลัง โดยการใช้พลังของพี่น้อง และเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน มาร่วมกันสร้างบ้าน สร้างชุมชนใหม่ ส่วน พอช.และหน่วยงานอื่นๆ จะเข้ามาร่วมกันสนับสนุน โดยการแบ่งบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน” นายธีรพงศ์กล่าว
นอกจาก พอช.จะสนับสนุนการสร้างบ้าน 6 หลังแรก จำนวนครัวเรือนละ 40,000 บาทแล้ว พอช.มีแผนจะสนับสนุนการสร้างบ้านในที่ดิน สปก.จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งหมด 389 ครัวเรือน รวมงบประมาณทั้งหมด 15,560,000 บาท และสนับสนุนการพัฒนากระบวนการ การเชื่อมโยงกลไก การวางแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิต รวม 250,000 บาท นายพรชัย ค้ำชู อายุ 39 ปี รองประธานสหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินตำบลสิงห์จำกัด ในฐานะครูสอนอาชีพการเลี้ยงแพะและเกษตรกรในที่ดิน สปก. กล่าวว่า ตนเคยไปฝึกอบรมการเลี้ยงแพะและศึกษาดูงานที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีมาก่อน และเห็นว่าอาชีพนี้จะทำให้เกษตรกรที่เข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินที่ได้รับจัดสรรจาก สปก.ครอบครัวละ 2.5 ไร่ สามารถมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ โดยแต่ละครอบครัวจะได้รับแพะตัวเมีย 30 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว เพื่อให้ผสมพันธุ์กัน และออกลูกมาให้เลี้ยงและนำไปขายต่อ
“แม่แพะ 1 ตัว ปีหนึ่งจะออกลูก 2 ครั้งๆ ละอย่างน้อย 1 ตัว เมื่อเลี้ยงได้ 6 เดือนก็สามารถจับไปขายได้ ราคาขายประมาณกิโลกรัมละ 120 บาท ตัวหนึ่งหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม ราคาขายตัวหนึ่งจะตกประมาณ 2,400 บาท หากมีลูกแพะขุน 30 ตัว เพียง 6 เดือนก็จะขายได้ไม่ต่ำกว่า 72,000 บาท” นายพรชัยยกตัวอย่าง
สำหรับการเลี้ยงแพะนั้น นายพรชัยบอกว่าจะใช้วิธีเลี้ยงแบบระบบปิด คือเลี้ยงในโรงเรือนยกพื้น เพื่อป้องกันการติดโรค และจะมีสัตวแพทย์มาตรวจโรคทั้งในระหว่างการเลี้ยงและก่อนการจับขาย เพื่อให้ได้แพะปลอดโรค ตรงกับความต้องการของตลาด ส่วนด้านการตลาด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยหาตลาดให้ โดยเฉพาะตลาดทางภาคใต้ของไทยและประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้บริโภคเป็นชาวมุสลิมและตลาดยังมีความต้องการเนื้อแพะมาก นอกจากนี้แต่ละครัวเรือนจะได้รับการสนับสนุนอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงกบและปลาดุกในบ่อ ปลูกผักสวนครัว ปลูกมะขามป้อม มะขามเปรี้ยว ฯลฯ