แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แม้แท็กซี่จะเป็นหนึ่งในวิธีเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดก็ตาม แต่ใน กทม. ยังคงเลี่ยงปัญหาถรติดไม่ได้อยู่ดี ซึ่งล่าสุดสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวัน ที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทการบินของเยอรมนีที่ใช้ชื่อว่าVolocopter ได้รับเงินลงทุนมูลค่า 25 ล้านยูโร จากบริษัทยานยนต์ข้ามชาติอย่าง Daimler AG ก็ได้วิจัยและพัฒนา “ยานพาหนะติดปีกไร้คนขับ” พลังงานไฟฟ้าขึ้นมา โดยเริ่มวิจัยมาตั้งแต่ปี 2010

 

 

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

โดรนแท็กซี่คันนี้สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 2 คน ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. แต่รุ่น2X ที่เพิ่งออกมาล่าสุดบินอยู่ที่ต่ำกว่า 75 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสุด 27 กิโลเมตร ขึ้น-ลงได้ด้วยตัวเอง แถมใช้เวลาชาร์จแบตเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และถ้าเป็นการชาร์จแบบเร่งด่วนก็จะเหลือแค่ 40 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยละมีร่มชูชีพฉุกเฉินอีกด้วย ทั้งนี้ โดรนแท็กซี่มีระบบตรวจสอบการทำงานด้วยตนเอง ซึ่งหากตรวจพบว่าเครื่องยนต์มีการทำงานที่ไม่ปกติ ระบบก็จะสั่งให้โดรนฯทำการลงจอดในพื้นที่ปลอดภัยที่ใกล้ที่สุด
ลักษณะพิเศษของเจ้า Volocopter ตัวนี้คือรูปทรงและการหมุนของใบพัดนั้น จะใช้เป็นใบพัดมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ในจำนวนมากถึง 18 ตัวด้วยกัน ทำให้สามารถควบคุมทิศทางและความเร็วได้อย่างละเอียดมากขึ้น พร้อมกับไม่สร้างคลื่นลมที่รุนแรงและรบกวนสิ่งรอบข้าง ในขณะที่กำลังนำเครื่องขึ้นหรือลง (ต่างกับเฮลิคอปเตอร์แบบปกติทั่วไปมากเลยทีเดียว)
เห็นแบบนี้ได้แต่นึกถึงบ้านเราที่นอกจากรถติดสุดๆไปแล้ว ยังมีเรื่องของแท็กซี่ที่ปัญหาเยอะเหลือเกิน ได้แต่หวังว่าบ้านเราจะเริ่มมองหาทางเลือกอื่นๆในเรื่องของการคมนาคม เข้ามาเป็นตัวเลือกให้ ปชช. ได้เลือกใช้กันอีกทางหนึ่ง

 

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

แท็กซี่เรื่องเยอะหลบไป!! Drone Taxi กำลังจะมา เตรียมทดลองบินปลายปีนี้

 

ขอคุณภาพจาก China Xinhua News