สมควรแล้ว!! ที่มาปิดพีซทีวี "เต้น" กล่าวหา "ลุงตู่" สืบทอดอำนาจนั่งเก้านายกฯคนนอก หลังการเลือกตั้ง

สมควรแล้ว!! ที่มาปิดพีซทีวี "เต้น" กล่าวหา "ลุงตู่" สืบทอดอำนาจนั่งเก้านายกฯคนนอก หลังการเลือกตั้ง

เหตุผลหนึ่งที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องพีซทีวี เป็นเวลา 30 วัน คือเนื้อหารายการเข้าใจตรงกันนะ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม จัดโดย "ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ"แกนนำนปช.
 

 

 

  โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้จะมีพรรคการเมืองในนามพรรคทหารขึ้น เพื่อรวบรวมเสียงจากส.ว.250 เสียง และคะแนนจากส.ส. และจะสนับสนุนใครสักคนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะมีคนหน้าเดิมที่อยู่บนเรือแป๊ะ และก่อนจะมาอยู่บนเรือแป๊ะก็อยู่บนเวทีลุงกำนันมาก่อน ย้อนหลังไป 10 ก็อยู่บนเวทีพันธมิตร ตนคิดเห็นส่วนตัวเชื่อว่าคสช.วางทางยาวอยู่แน่ แต่จะอยู่ในสภาพใดก็ต้องถกอภิปรายกัน เพราะมีเสียงจากพรรคการเมืองให้นายกรัฐมนตรีลงสนามเลือกตั้งเลย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบลงสมัครส.ส.เอง หรือไปอยู่ในพรรคการเมืองใด ก็ขอให้ลงสมัคร เพราะถือว่าให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

 

    “บางคนบอกว่าชวนอย่างไรนายกฯก็ไม่ลงอยู่แล้ว เพราะว่านอนมาอยู่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธว่านายกฯไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ ตั้งใจจะมาแก้ปัญหาประเทศก็เป็นบทเดิมๆทั้งสิ้น ผมไม่เชื่อว่าท่านนายกฯจะลงเลือกตั้ง เพราะหากจะลงเลือกตั้งจริงกติกาจะไม่เปิดให้มีนายกฯคนนอกได้ ผมไม่ได้ฟันธงว่าท่านจะเป็นนายกฯคนนอก แต่พูดในภาพรวม ท่านรักบ้านเมืองมา 3 ปี แล้วจึงต้องรักกันต่อ เพราะเชื่อว่าปัญหาประเทศกลุ่มท่านเท่านั้นที่แก้ปัญหาได้ ถ้าท่านสนใจจะลงเลือกตั้ง ก็คงปิดทางนายกฯคนนอกไปแล้ว แต่เมื่อเปิดทางเอาไว้ก็เชื่อว่าคณะผู้มีอำนาจเบอร์หลักๆคงไม่ลง แต่จังหวะและสถานการณ์การเมืองตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งจะหนุนให้มีนายกฯคนนอก เพราะหลังเลือกตั้งบรรดาพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลกันไม่ได้ จำเป็นต้องมีนายกฯคนนอก ซึ่งได้ประสานงานกัน 250 ส.ว.เอาไว้เรียบร้อยแล้ว” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนนายกฯจะมาเป็นนายกฯคนนอกหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธเด็ดขาดสักครั้ง เรื่องใหญ่อย่างการรัฐประหารท่านก็เคยปฏิเสธมาแล้ว แต่มันก็มีวันนี้อยู่ได้ มาใหม่ๆท่านก็แต่งเพลงเราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน แต่ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว จนตนไม่เคยได้ยินใครเปิดเพลงนี้อีกแล้ว และการสื่อถามว่านายกฯจะลงเลือกตั้งหรือไม่ถือว่าเป็นเรื่องอนาคตของประเทศ ขอให้เข้าใจที่สื่อต้องถาม หากนายกฯประกาศลงเลือกตั้ง หรือประกาศว่าพร้อมจะรับตำแหน่งนายกฯคนนอก คนเขาก็เชื่อว่าถ้าจะเอาอย่างไรก็ต้องได้เป็น 

“ถ้าเขาย้อนไปดูวิธีการทำงานของนายกฯ แล้วหากมาเป็นนายกฯคนนอก ผมคิดว่ามีผลว่าโอ้โห..ขนาดมีมาตรา 44 ยังออกลูกเงอะงะหลายเรื่อง ถ้าไม่มีมาตรา 44 ไหวเหรอครับ แล้วมันจะยุ่งหรือไม่ เพราะในประวัติศาสตร์หากหัวหน้าคณะยึดอำนาจมาเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง มันมีความเปราะบาง แล้วผลก็คือความเชื่อมั่นของการลงทุน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ของนานาชาติ มันเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ผมก็ไม่ได้จะคาดคั้นนายกฯ เพราะท่านไม่ตอบอยู่แล้ว แต่ขอให้ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล เรื่องนี้มันเป็นทิศทางของประเทศว่าจะไปทางไหน เฉพาะตัวกติกาเอาใครมาเป็นนายกฯก็ตามสุ่มเสี่ยงจะมีความขัดแย้งอยู่แล้ว หากท่านนายกฯมาเองก็น่าห่วงใย มันอาจจะเป็นความกังวลของผมคนเดียวก็ได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

 

 

 

 

    นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า คสช.เข้ามาด้วยการศึกษาประวัติศาสตร์พอสมควร โดยมีการสำรวจข้อมูล ดูกระแสสังคมในประเด็นสำคัญ เผด็จการก็มีพัฒนาการ มีการเรียนรู้ มีจังหวะเดินก้าวย่างทางการเมือง ซึ่งไม่ธรรมดา ถ้าเรามองเพียงว่าประชาชนเดินไปไกลแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ว่าเผด็จการเขาไปไกลแล้วเช่นกัน อำนาจเผด็จการเขาเรียนรู้สั่งสมรอคอย จนรู้ว่าจะใช่ส่วนหนึ่งของพลังระบบประชาธิปไตย ตอนนี้เขาอ่านขาดว่าพรรคการเมืองบางกลุ่มอยากเข้ามาแบ่งปันอำนาจ ถึงเวลาก็เคาะระฆังมาเข้าแถวแล้ว ใครจะเอาอำนาจบ้างยกมือ ใครจะมีตำแหน่งก็แสดงตัวเข้ามา นี่คือสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า สำคัญที่ประชาชนจะเลือกยืนอย่างไร ถ้าประชาชนจะสมยอมกับอำนาจเผด็จการ เสียงเรียกร้องประชาธิปไตยก็จะแผ่วล้า ลดคุณค่า แต่ถ้าประชาชนยืนหยัดนักการเมืองก็จะยืนตัวตรง ตนไม่ได้เชื่อใคร แต่เชื่อในประชาชน

 

 

 

///
จันทรา ส่องแสง
///