เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

ณ วินาทีนี้ไม่ว่าหัวใจดวงไหนของพสกนิกรไทยต่างร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยหากจะกล่าวถึงบุคคลท่านหนึ่งที่ได้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาทั้งชีวิตคงหนีไม่พ้น "ท่านภี" หรือ "หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี" ผู้ทรงเป็นหัวเรือใหญ่รับสนองพระราชดำริ ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต ได้เผยภาพความประทับใจและความทรงจำเมื่อครั้งอดีตว่าไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจ

เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นพระโอรสองค์สุดท้อง ในพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ และหม่อมเจ้าพิมลพรรณ (วรวรรณ) รัชนี ประสูติเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2465 (ถ้านับแบบเดิมตรงกับวันที่ 20 มกราคม 2464) เป็นพระอนุชาของหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต (20 พฤศจิกายน 2463-16 กุมภาพันธ์ 2520)

 

เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ท่านสมัครเป็นทหาร และเป็นสายลับของกองทัพอังกฤษ ระหว่างปี พ.ศ. 2485-2489 หลังสงคราม ท่านเดินทางกลับประเทศไทย และเริ่มทำงานกับบริษัท เชลล์

 

ในปี พ.ศ. 2512 ประเทศไทยประสบปัญหายาเสพติด เนื่องจากชาวเขาในภาคเหนือนิยมปลูกฝิ่นเพื่อยังชีพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ มีพระบรมราโชบายให้ชาวเขาร่วมมือกันกำจัดฝิ่นโดยสันติวิธี ทรงพระราชทานพระราชดำริ ให้ชาวเขาหันมาปลูกพืชที่มีประโยชน์ และมีรายได้ดี เช่น ท้อ พลัม สตรอเบอรี่ รวมทั้งผักและดอกไม้เมืองหนาว โดยมีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต เผยภาพประทับใจระหว่างสองพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่มีต่อ มจ.ภีศเดช ผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาทั้งชีวิต

ไม่เพียงเท่านั้นหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ยังมีภาพความประทับอีกมากมายเมื่อครั้งได้มีโอกาสถวายงานให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 อีกด้วย

และภาพความประทับใจล่าสุดที่มีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เสด็จไปในการนี้ด้วย ซึ่งเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 9 กรกฎาคม 2560 เวลา 16:45 น. โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นเครื่องทรงฤดูฝนถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรหรือพระแก้วมรกต

ทั้งนี้พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งในสมัยนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝนอย่างละสำรับ

 

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนเครื่องทรงตามฤดูกาล ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องทรงสำหรับฤดูหนาวถวายอีกสำรับหนึ่ง ทำให้ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จึงทรงเครื่องทรง 3 ชุด ตามฤดูกาลของประเทศไทย

 

จนมาถึงปี 2539 ทางรัฐบาลก็ได้มีการสร้างเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรชุดใหม่ เพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีผลัดเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรตามโบราณราชประเพณีขึ้น เพื่อทดแทนชุดเดิมที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ครบ 50 ปี ซึ่งได้ใช้เครื่องทรงชุดดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบันนี้ อนึ่งพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในแต่ละปีมีกำหนดเวลา ดังนี้

- วันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูร้อน

- วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนเป็นเครื่องทรงฤดูฝน

- วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว

 

ขอบพระคุณข้อมูลบางส่วน : ข่าวในพระราชสำนัก