จากกรณีที่ น.ส.จุฑารัตน์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

ทางด้านเจ้าของอู่ เปิดเผยว่า อู่ตนได้รับจ้างทำสีรถคันดังกล่าวให้กับเสี่ยคนหนึ่ง ที่มีอาชีพซื้อขายรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวพบว่ามีการโป้สีมาหนาดูแล้วเหมือนมีการชนหนัก จึงได้ให้ทำสีใหม่ เพื่อขายได้ราคาดีขึ้น ซึ่งค่าจ้าง จำนวน 15,000 บาท โดยมีการว่าจ้างตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา

ใกล้เข้ามาอีกนิด!! ออกหมายเรียก นายทหาร  ผบ.ร้อย.112ฉก.1 สอบพัวพัน อุ้มหาย สาว อบต.ศรีสะเกษ

จากกรณีที่ น.ส.จุฑารัตน์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถยนต์เก๋ง ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นทางด้านผู้เป็นพ่อ ได้เข้าแจ้งความและร้องทุกข์ กับสื่อมวลชนเพื่อตามหาลูกสาวที่หายไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปพบว่ารถเก๋งของ น.ส.จุฑารัตน์ ถูกนำเอาไปขายและนำไปทำสีอยู่ที่อู่รถแห่งหนึ่งใน จ. อุบลราชธานี

ด้าน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานภายในรถคันดังกล่าว เพื่อใช้เป็นหลักฐานนำไปสู่การติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์

ทางด้านเจ้าของอู่ เปิดเผยว่า อู่ตนได้รับจ้างทำสีรถคันดังกล่าวให้กับเสี่ยคนหนึ่ง ที่มีอาชีพซื้อขายรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวพบว่ามีการโป้สีมาหนาดูแล้วเหมือนมีการชนหนัก จึงได้ให้ทำสีใหม่ เพื่อขายได้ราคาดีขึ้น ซึ่งค่าจ้าง จำนวน 15,000 บาท โดยมีการว่าจ้างตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา


ด้าน พล.ต.ต.สุระเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ศรีสะเกษ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าชุด และ พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ นำทีมสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนี้


สำหรับการหายตัวไปในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ยังตั้งเอาไว้หลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในครอบครัว ความขัดแย้งในที่ทำงาน รวมถึงเรื่องชู้สาว ซึ่งตอนนี้มีการตามประกบตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว เมื่อพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วก็จะสามารถออกหมายจับคนร้ายรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทันที
 

ใกล้เข้ามาอีกนิด!! ออกหมายเรียก นายทหาร  ผบ.ร้อย.112ฉก.1 สอบพัวพัน อุ้มหาย สาว อบต.ศรีสะเกษ

ล่าสุด วันที่ 10 สิงหาคม 2560 เรื่องดังกล่าว ก็มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้น เมื่อ การสอบสวนพบว่า น.ส.จุฑารัตน์ กับทางด้าน ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยที่ 112 ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 (ผบ.ร้อย.112ฉก.1) กองกำลังสุรนารี อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่หายตัวไป และจะตรวจสอบไม่ได้อีกเลยคือตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา

หลงจากนั้นทางด้าน พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สว.สอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำหมายเรียกผู้ต้องหาไปส่งให้นายทหารพระธรรมนูญ ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อขอควบคุมตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยที่ 112 ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 (ผบ.ร้อย.112ฉก.1) กองกำลังสุรนารี ซึ่งประจำการอยู่ที่เทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหาร ไปพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 เวลา 13.30 น. ในข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยว ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายฯ



ใกล้เข้ามาอีกนิด!! ออกหมายเรียก นายทหาร  ผบ.ร้อย.112ฉก.1 สอบพัวพัน อุ้มหาย สาว อบต.ศรีสะเกษ

ใกล้เข้ามาอีกนิด!! ออกหมายเรียก นายทหาร  ผบ.ร้อย.112ฉก.1 สอบพัวพัน อุ้มหาย สาว อบต.ศรีสะเกษ