ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

พระเมตตาในสมเด็จพระสังฆราช! ทรงประทานพระโอวาทพร้อมทั้งทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่คณะจิตอาสาตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๑๐

วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ นายประสิทธิ์ ดำรงชิตานนท์ นำคณะผู้บริหารบริษัท ข้าว ซี.พี.จำกัด พร้อมด้วยคณะจิตอาสาข้าวตราฉัตร เฝ้ารับประทานพระโอวาท

จากนั้น เสด็จออก ณ ไพทีหน้าพระอุโบสถ ทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่คณะจิตอาสา ซึ่งปฏิญาณตนเป็นผู้ช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม ทำดีด้วยหัวใจ ตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า

"มีพระพุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่งที่เกี่ยวกับ 'ฉัตร' หรือร่มใหญ่ ที่อาตมภาพขอยกมากล่าวกับท่านทั้งหลายในวันนี้ เพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางของการดำเนินชีวิต และการปฏิบัติภารกิจการงาน

ภาษิตนั้นมีความเป็นภาษาบาลีว่า
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ
​​ฉตฺตํ มหนฺตํ วิย วสฺสกาเล.

แปลเป็นไทยว่า
'ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมไว้ได้แท้จริง
ประดุจร่มใหญ่ในฤดูฝนฉะนั้น'

ท่านทั้งหลายมีตราฉัตรเป็นตราประจำองค์กร ท่านได้เห็นรูปร่มใหญ่นั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หรือแม้เวลาเข้ามาในวัดราชบพิธ มองไปเหนือพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถก็เห็นเศวตฉัตรแขวนกางกั้นอยู่ หรือพอหันกลับไปแหงนหน้ามองดูที่ตราแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งประดับอยู่เหนือกรอบประตูพระอุโบสถ ก็เห็นรูปฉัตรกางกั้นประกอบอยู่ จึงควรที่จะเอาใจใส่ถึงความหมายในทางธรรมะ ที่แฝงอยู่ในรูปฉัตรนั้นๆ เสมอ

'ธรรมะ' หรือความดีในกาย วาจา และใจนั้น เป็นคุณสมบัติของมนุษย์ผู้ประเสริฐ เพราะคนที่มีธรรมะ ย่อมสามารถพัฒนาตน พัฒนาองค์กร และพัฒนาสังคม ให้งอกงามรุ่งเรืองได้อย่างไม่มีวันเสื่อมถอย

ถ้าเรามีธรรมะเป็นทางประพฤติแล้ว จงอย่าเกรงกลัวต่อทุกข์ภัยใดๆ เลย เพราะธรรมย่อมจะตามรักษาผู้ประพฤติธรรม เสมือนมีฉัตรคอยกางกั้น มิให้แดด ฝน และธุลีละอองต่างๆ มาแผ้วพาน

ท่านทั้งหลายตั้งใจจะเป็นจิตอาสา ย่อมมีคุณธรรมพื้นฐานในใจอยู่แล้วข้อหนึ่งคือ 'ความเสียสละ' คนที่จะอาสาทำสิ่งดีงามเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นได้ ต้องลดอัตตาตัวตนให้จางคลายลงก่อน เพื่อให้มีเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต พิจารณาจนเห็นว่าทุกข์ของเขาเป็นทุกข์ของเรา และสุขของเขาก็เป็นสุขของเราให้ได้เสียก่อน

ถ้าจิตใจของจิตอาสามีความอ่อนโยน และเห็นเพื่อนร่วมสังคมของเราเป็นเสมือนตัวเราเอง ความเป็นเราเป็นเขาก็ไม่มี ความเบียดเบียน ความร้าวฉานกันก็จะไม่มี เพราะใครเล่าจะอยากให้ตนเองประสบกับความทุกข์ กระทั่งในที่สุด การช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ ไม่ถือเขาถือเรา ย่อมบังเกิดมีขึ้นเป็นปรกติ คุณสมบัติข้อนี้คือพื้นฐานทางจิตใจของคนที่จะเป็นจิตอาสา"


พระเมตตาในสมเด็จพระสังฆราช! ทรงประทานพระโอวาทพร้อมทั้งทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่คณะจิตอาสาตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๑๐

พระเมตตาในสมเด็จพระสังฆราช! ทรงประทานพระโอวาทพร้อมทั้งทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่คณะจิตอาสาตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๑๐ พระเมตตาในสมเด็จพระสังฆราช! ทรงประทานพระโอวาทพร้อมทั้งทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่คณะจิตอาสาตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๑๐