ท่านยอมได้อย่างไร!?สมาคมประมงระนอง ร้องผู้ว่าฯ หลังเรือประมงไทยถูกทหารเมียนมาร์บุกข้ามน่านน้ำเข้ามาจับเรือในฝั่งไทย ฝ่ายไทยไม่เหลียวแล

วันนี้ 12 สิงหาคม 60  นายสุรินทร์  โลสง นายกสมาคมประมง พร้อมด้วยผู้ประกอบการเรือประมงกว่า 50 คนได้ยื่นหนังสือต่อ นายจตุพจน์  ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เพื่อร้องถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง และร้องขอให้ช่วยประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบนำเรือประมงพร้อมลูกเรือที่ถูกทหารเมียนมาร์จับกุมไปกลับมา 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2560 เวลาประมาณ 02.30 น.เรือประมงอวนลากเดี่ยวแผ่นตะเฆ่ชื่อเรือ"เทพนาวา 8" หมายเลขทะเบียนเรือประมง 149 2-02616 เครื่องหมายประจำเรือประมง AM1462 A หมายเลข VMS 300234063235630 ใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์หมายเลข 608501010012 มีนางพัสดี คำสงค์ เป็นเจ้าของเรือและมีผู้ควบคุมเรือประมง(ไต๋ก๋งเรือ)ชื่อนายธีระ บุตรบุญคอม พร้อมลูกเรือประมง 7 คน แจ้งว่าขณะที่เรือประมงลำดังกล่าวกำลังทำการประมงอยู่ในเขตน่านน้ำไทยได้มีเรือขนาดเล็กติดอาวุธทราบภายหลังว่าเป็นเรือลูกของเรือรบพม่าหมายเลข 566 ของทางการเมียนมาร์ได้รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย ที่แนวขอบเส้นอาณาเขตทางทะเลบริเวณด้านทิศเหนือหลังเกาะช้าง-เกาะพยามจังหวัดระนอง ละติจูด 9.37.540 ลองติจูด 98.13.520 และได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในเรือประมง ช่วงเกิดเหตุไต๋เรือประมงและลูกเรือประมงต่างกระโดดจากเรือหนีเอาชีวิตรอดและต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงอรวรรณ 2 ที่กำลังทำการประมงในบริเวณดังกล่าว

โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการทำการประมงด้วยระบบติดตามเรือ VMS โดยเจ้าหน้าที่แจ้งเข้าออกเรือประมงจังหวัดระนองพบว่าเรือเทพนาวา 8 ทำการประมงอยู่ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำพม่าแต่อย่างใด ซึ่งกรณีดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับเรือประมงในพื้นที่จังหวัดระนองหลายรอบแล้ว แต่เรือประมงที่เดินทางการพม่าจับกุมส่วนใหญ่ไม่มีระบบติดตามเรือประมง VMS จึงไม่สามารถยืนยันตำแหน่งการทำการประมงที่ชัดเจนได้และโดนกล่าวหาว่าทำการประมงน่านน้ำพม่ามาโดยตลอด ทางสมาคมประมงจังหวัดระนอง จึงอยากร้องขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามช่วยเหลือเรือประมงลำดังกล่าวกลับมาฝั่งไทย และหามาตรการป้องกันการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือทหารพม่าที่เข้ามาจับกุมเรือประมงไทยที่ทำการประมงอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับเรือประมงไทยและชาวประมงสามารถทำการประมงด้วยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อไปได้

 

นายธีระ บุตรบุญคอม(ไต๋ก๋งเรือเทพนาวา 8) เปิดเผยว่า ตนเป็นไต๋ก๋ง(ผู้ควบคุมเรือ)เรือเทพนาวา 8 และได้แจ้งออกทำการประมงตามเส้นทางเดินเรือหรือแจ้งออกมาการทำประมงด้วยเครื่องประเภทอวนลากแผ่นตะเฆ่ จากศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกประมง(ศูนย์ปีโป้ระนอง)สู่ทะเลอันดามันตอนบน โดยได้ทำการประมงบริเวณแนวขอบเส้นอาณาเขตทางทะเลบริเวณด้านทิศเหนือหลังเกาะช้าง-เกาะพยามจังหวัดระนอง โดยคืนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6  สิงหาคม 2560 เวลา 02.30 น. ได้มีเรือประมงลักษณะเป็นเรือไม้ขนาดเท่าเรือปั่นไฟประมาณ 30 ตันกรอส สีเขียวอ่อน มีการติดตั้งเรดาร์ไม่ได้เปิดไฟส่องสว่างเข้ามาจอดเทียบเรือที่กำลังทำการประมงอยู่ในลักษณะเอาหัวเรือมาชนกัน โดยสังเกตพบว่าภายในเรือดังกล่าวได้มีกลุ่มบุคคลอยู่บนเรือ ประมาณ 7-8 คน แต่งกายด้วยชุดลายพรางทหารเมียนมาร์สีฟ้าอ่อนและถืออาวุธปืนยาวคล้ายอาวุธสงครามโดยผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมเรือทหารเมียนมาร์ลำดังกล่าวได้ตะโกนสั่งลูกน้องเสียงดังเป็นภาษาเมียนมาว่า ยิงให้ตายๆๆๆๆ จากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวประมาณ 4-5 คนก็ได้ยกปืนขึ้นเล็งและกราดยิงเข้ามายังเรือเทพนาวา 8 ที่กำลังทำงานอยู่บริเวณห้องนายท้ายเรือและห้องควบคุมเรือ(เก๋งเรือ)อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 2 นาที ทั้งยิงแบบทีละนัดและยิงเป็นชุดรวมหลายสักนัด ทำให้กระสุนถูกลำเรือหลายแห่งรวมทั้งบริเวณกระจกด้านซ้ายของห้องควบคุมเรือแตกละเอียด  ผู้ควบคุมเรือหรือไต่เรือ ก็ได้ร้องตะโกนให้ทุกคนกระโดดน้ำหลบหนีลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอด  จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวก็ได้จู่โจมเข้าขึ้นยึดเรือเทพนาวา 8 แล้วบังคับเรือมุ่งหน้าไปยังน่านน้ำฝั่งประเทศเมียนมา

ข่าวโดย นิเวศน์ เสระหมาน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ระนอง