คนตาบอด?!? “นักเขียนซีไรต์”หยิบภาพรถเมล์ระบบใหม่อธิบายรบ.“เลอะเทอะ ไม่จริงใจ ผักชีโรยหน้า บ้าวาทะกรรม ไม่เห็นความสำคัญปชช. ควันดำไส้เน่า”???

http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ปฏิรูปเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางใหม่ เปลี่ยนทั้งสายเลขรถ และเส้นทางเดินรถใหม่ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์และขยายวงกว้างไปสู่สังคม ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างมากมาย อาทิแฟนเพจ รถเมล์ไทย.คอม ได้นำรายละเอียดข้อมูลจาก ขสมก. มาเผยแพร่ ใช้ชื่อหัวข้อว่า เปิดโผเลขสายรถเมล์ใหม่ ในเส้นทางปฏิรูป 269 เส้นทางทราบว่าเบื้องต้นได้มีการปรับเปลี่ยนเลขสายรถใหม่ ในเขตการเดินรถที่ 7 และ 8 แล้ว ซึ่งเลขสายรถแบบใหม่ จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษนำหน้าหมายเลข ยกตัวอย่าง รถเมล์สาย 114 เลขสายรถใหม่จะเป็น “G21สาย 67 กลายเป็น “R44

       สำหรับเส้นทางเดินรถ จะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ทั้งหมด หลายสายจะถูกตัดระยะให้สั้นลง อย่างเช่น ในเขตการเดินรถที่ 8 สาย 73ก จากเดิมวิ่งจากสวนสยาม-สะพานพุทธ ของใหม่จะกลายเป็นสาย B46 วิ่งจากสวนสยาม-รองเมือง หรือ สาย 178 จากเดิมวิ่งวงกลมลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ กลายเป็นสาย B50 แฮปปี้แลนด์-ลาดพร้าว

คนตาบอด?!? “นักเขียนซีไรต์”หยิบภาพรถเมล์ระบบใหม่อธิบายรบ.“เลอะเทอะ ไม่จริงใจ ผักชีโรยหน้า บ้าวาทะกรรม ไม่เห็นความสำคัญปชช. ควันดำไส้เน่า”???

       ทั้งนี้ วีรพร นิติประภา นักเขียนรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2558  จากนวนิยายเรื่อง ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต โดยสำนักพิมพ์มติชน ได้ออกมาแสดงความเห็นในกรณีการเปลี่ยนสายรถเมล์ไทยใหม่ผ่านเฟซบุ๊ก Veeraporn Nitiprapha ด้วยซึ่งได้นำภาพรถเมล์สายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระบบการเปลี่ยนสายใหม่มาลงไว้ พร้อมข้อความอธิบาย โดยมีเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

 

“ครือภาพเดียวนี่อธิบายรบ.นี้ได้หมดจดเลยนะคะ สวยหรู เต็มไปด้วยความยุ่งยากอันไม่จำเป็น เลอะเทอะ โบราณ ไร้ความจริงใจในการแก้ปัญหา ผักชีโรยหน้าสร้างภาพ บ้าวาทะกรรม ไม่เห็นความสำคัญประชาชน ควันดำไส้เน่าเหมือนเดิมดั้ว”

คนตาบอด?!? “นักเขียนซีไรต์”หยิบภาพรถเมล์ระบบใหม่อธิบายรบ.“เลอะเทอะ ไม่จริงใจ ผักชีโรยหน้า บ้าวาทะกรรม ไม่เห็นความสำคัญปชช. ควันดำไส้เน่า”???

       อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นาย สมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง  ได้ออกมาชี้แจวว่า เรื่องดังกล่าวคิดกันมาสักระยะแล้ว เพราะเห็นว่าเส้นทางเดินรถในปัจจุบันมีการทับซ้อนกันหลายเส้นทาง และบางเส้นทางรถเมล์วิ่งระยะทางยาวมาก แถมทับกับเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งเส้น ทำให้เกิดการแข่งขันกันเอง ที่สำคัญยังขัดกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ในอนาคตจะเน้นให้รถไฟฟ้าเป็นระบบขนส่งสาธารณะทางหลัก และรถเมล์เป็นระบบขนส่งสาธารณะทางรอง ทำหน้าที่เป็นตัวป้อนผู้โดยสารให้กับรถไฟฟ้า ดังนั้นจึงถือโอกาสทบทวนเส้นทางการเดินรถใหม่ทั้งหมด

 

       “เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการปรับใหญ่ทั้งระบบตั้งแต่จัดการเดินรถเมล์มาก็ว่าได้รองปลัดกระทรวงคมนาคม ย้ำประโยคนี้ ก่อนที่จะบอกว่าการปรับเปลี่ยนเส้นทางครั้งนี้ ยึดหลักให้รถเมล์เดินรถในระยะทางที่สั้นลง ผ่านชุมชน และตอบสนองความต้องการของประชาชนมากที่สุด จึงตัดระยะทางสายรถเมล์ที่เดินรถยาวมากๆ ให้ลดลงจากเดิมเฉลี่ย 3 กิโลเมตร รวมทั้งสายรถเมล์ใดที่วิ่งทับกับเส้นทางรถไฟฟ้าเกิน 5 สถานี ต้องปรับเส้นทางใหม่ ให้เลี่ยงเส้นทางรถไฟฟ้าบ้าง และแวะเข้าไปรับผู้โดยสารในชุมชนมากขึ้น และการปรับครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้รถไฟฟ้าหลากสีจะทยอยเปิดให้บริการ จึงต้องปรับเส้นทางการเดินรถเมล์อยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ทับกับเส้นทางรถไฟฟ้ายาวเกินไป

คนตาบอด?!? “นักเขียนซีไรต์”หยิบภาพรถเมล์ระบบใหม่อธิบายรบ.“เลอะเทอะ ไม่จริงใจ ผักชีโรยหน้า บ้าวาทะกรรม ไม่เห็นความสำคัญปชช. ควันดำไส้เน่า”???

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Veeraporn Nitiprapha