ความเหมือนที่แตกต่าง!! เรื่องต้องรู้ “การเรี่ยไรเงิน” ไม่ใช่ “การบอกบุญ” พระอาจารย์สุชาติ สอนไว้ ให้ระวัง ก่อน “บุญ”จะกลายเป็น “กิเลส” !

คติธรรมพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต (พระจุลนายก)  ศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร

 

เรื่อง "การเรี่ยไร ต่างจาก การบอกบุญ"

ถึงบอกว่าทำอะไรก็ทำตามกำลังของเราไปก็จบ ถ้าเราทำ คนอื่นเขารู้เขาก็จะมาขอร่วมบุญ เขาจะไม่เบื่อเรา เพราะเขายินดี เราไม่ได้ไป "บีบบังคับ" ให้เขามาทำ แต่ถ้าเขามาทำด้วย "ความเกรงใจ" เรา เขาก็เริ่มเบื่อเราแล้ว แค่เห็นหน้าเรานี้ จะมาเอาอะไรอีกแล้ว ถ้าจะทำบุญเพื่อให้เรามีความสุขใจ สบายใจ ไม่มีปัญหาอะไรก็ทำไปตามกำลังของเรา ส่วนคนอื่น เขาจะมาร่วมก็ให้เขาร่วม ถ้าไม่ให้เขาร่วมก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง กันท่าอีกแล้ว

ก็บอกก็ได้ว่าเราจะไปทำบุญแค่นี้จบ บอกบุญได้ แต่อย่าไปดึงอย่าไปลากเขา #ปล่อยให้เขามาด้วยความสมัครใจ บางทีเขาอยากจะทำบุญแต่เขาไปเองไม่ได้ พอดีเราทำ เรามีรถเขาขอมาด้วยอย่างนี้ อย่างนี้เท่ากับเราเอื้อให้เขาได้มีโอกาสได้ทำบุญ แต่ในทางตรงกันข้ามเราทำบุญแต่ เงินของเรามีไม่พอ เราอยากจะเอาเงินของคนอื่นมาทำนี้ก็เป็นกิเลสแล้ว อยากจะได้เงินของคนอื่นมาทำ เข้าใจไหม

ดังนั้นเราอย่าไปทำด้วยความโลภ เพราะมันจะติดเป็นนิสัย เดี๋ยวทุกครั้งอยากจะทำบุญก็ต้องโลภ อยากจะได้เงินของคนอื่นมาทำ บางทีทำไปทำมาเงินของตัวเองนี้ เห็นว่าบางทีมันเยอะกว่าก็ของตัวเอง ก็ไม่ต้องทำ เช่น อยากจะสร้างห้องน้ำ ๕๐,๐๐๐ ตอนต้นกะจะออกสัก ๑๐,๐๐๐ ไปเรี่ยไรเขามาได้เกิน ๕๐,๐๐๐ เกิน ๖๐,๐๐๐ ไอ้เงินของตัวเองก็เลยไม่ได้ใช้เลย

 

 

ที่มา : ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น