รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"
 

วันนี้วันที่ ๑๕ สิงหาคมเป็นวันคล้ายวันละขันธ์ครบ ๔ ปี ของคุณแม่จันดี โลหิตดี “อริยสาวิกาผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมแห่งวัดป่าบ้านตาด” คุณแม่จันดี โลหิตดี เป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพศรัทธาจากลูกศิษย์ขององค์พระหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านภาวนาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสทำนาไปก็ภาวนาไป ขนาดมีทางจงกรมอยู่ข้างเถียงนา คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เคยไปเยี่ยมท่านที่นา เห็นทางจงกรมมีรอยเดินจนทางเป็นร่องเป็นมัน จนท่านได้พูดว่า “จันดีเจ้าอยู่ไหน ก็มีเครื่องหมายของพระพุทธเจ้าอยู่ทุกที่ มิน่าข้าวของเจ้าถึงได้มากกว่าผู้อื่น” ตลอดระยะเวลาประมาณ ๓๒ ปีแล้วนับจากปี พ.ศ.๒๕๒๔ ที่คุณแม่ท่านอยู่ปฏิบัติธรรมและอบรมสั่งสอนลูกศิษย์อยู่ที่วัดป่าบ้านตาด ภายใต้ท่าทางที่ดูสงบ เรียบง่ายและความอบอุ่นที่เผื่อแผ่ออกมา ท่านมีความเด็ดเดี่ยว เด็ดขาดจริงจัง จนดูน่ากลัวสำหรับศิษย์ผู้อ่อนแอ ดวงตาของท่านเวลาสอนลูกศิษย์ต่อสู้กับศัตรู คือกิเลส ท่านจะดูอาจหาญ ขึงขัง เด็ดเดี่ยว จริงจังมาก ถ้าลูกศิษย์คนใดจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ท่านก็จะค่อยๆ ทะนุถนอม แต่ท่านจะเปรยๆ ว่า"กิเลสในใจของตัวเองก็ฆ่ามาแล้ว นี่ต้องได้มาเอาใจกิเลสของผู้อื่น โอ๊ย น่าอเนจอนาถ" 
น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"

น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"
ประวัติและปฏิปทาคุณแม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
คุณแม่จันดี โลหิตดี ท่านถือกำเนิดตรงกับวันพุธที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ ในครอบครัว พ่อแม่ และพี่น้องเดียวกันกับพระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด มีพี่น้องซึ่งมีชีวิตอยู่ จนโตคือ พี่ชาย ๔ คน พี่สาว ๔ คน และ น้องสาว ๑ คน ท่านเป็นคนที่ ๙ ท่านเป็นน้องสาวคนเดียวที่สละบ้านเรือนออกปฏิบัติ ถือศีลภาวนา ที่วัดป่าบ้านตาด
คุณแม่จันดีเล่าว่า..ตอนเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นประถม จะมีความรู้แปลกๆ อยู่กลางอก ก่อนจะบ่งบอกอะไร ตรงกลางอกจะมีเหมือนพัดลมน้อย (หมุนติ้ว ๆ) แล้วส่งความรู้ออกมา ท่านบอก ถ้ามีอะไรบ่งบอกขึ้นในจิตท่านเคยคิดจะฝืน แต่ฝืนไม่ได้ มีอำนาจมาก(สะเทือนในจิต) ฝืนไม่ได้สักครั้งเดียว เป็นเด็กตั้งใจเรียน ช่างจำ เรียนเก่ง จนครูให้ช่วยสอนเพื่อน ๆ ในห้อง
อายุประมาณ ๑๐ กว่าขวบ ท่านได้ตามมารดาไปถวายจังหัน พระหลวงตา (พระพี่ชาย) หลังฉันจังหันพระหลวงตาสอนโยมมารดาวิธีปฏิบัติภาวนา ถึงเป็นเด็กแต่ก็ฟังรู้เรื่อง ในคืนนั้นท่านจำเอาวิธีการภาวนา และลองนั่งภาวนาท่านปฏิบัติตามที่พระหลวงตาบอกโยมมารดา ประมาณ ๓ นาที จิตสงบรวมลง เห็นร่างกายเน่าเปื่อยสลายกลายเป็นดิน พระหลวงตาได้ฟังโยมมารดาเล่าเรื่องที่ท่านภาวนากราบเรียน จบลง 
พระหลวงตาถามว่า “จันดี ตัวน้อย ๆ ๆ นั่นหรือภาวนา” 
มารดาตอบว่า “ใช่ จันดีนี้แหละ” 
พระหลวงตาบอกกับแม่ท่านว่า..“เขามีของเก่าของเขา เขามีของเก่ามา”
ช่วงเวลาที่ครองเรือน มีบุตร ๔ คน ชาย ๑ คน หญิง ๓ คน โดยที่ยังตั้งใจภาวนาและถือศีลอย่างเคร่งครัด ยิ่งพระหลวงตามาตั้งวัดป่าบ้านตาดยิ่งได้กำลังใจปฏิบัติภาวนา ติดขัดอะไรก็กราบเรียนถามตอนท่านเข้ามารับบิณฑบาตในหมู่บ้าน วันพระท่านขอสามีให้ช่วยดูแลลูก คืนนั้นคุณแม่ก็นั่งภาวนาจิตก็สงบ ขณะจิตรวม เสียงลูกน้อยตื่นร้องจ้า แต่จิตยังไม่ถอน จึงไม่สามารถดูลูกน้อยในอู่ (เปล) ได้ ลูกน้อยร้องอยู่สักพัก สามีท่านคงเห็นผิดสังเกต จึงเข้ามาดู และอุ้มลูกน้อยออกไปจากห้องเอาน้ำหยอดปากให้ลูกน้อยได้กินก่อน..รอแม่
เช้าวันหนึ่ง พระหลวงตาไปรับบิณฑบาตในหมู่บ้าน ท่านได้ถาม “ภาวนา เป็นยังไง”
คุณแม่จันดีกราบเรียนว่า..“ฝันแปลกมาก ฝันว่าพระหลวงปู่มั่น ชวนให้ไปกับท่าน แต่ในฝันเป็นห่วงลูกคนเล็ก จึงขอไปดูลูกก่อน จะตามไปทีหลัง”
พระหลวงตาให้อุบาย“เอ้า ให้มึงคิดตัดสินใจเอา ถ้าห่วงลูก ก็ตามพระหลวงปู่มั่นไปไม่ได้” 
คำพูดของพระหลวงตา ทำให้ต้องตั้งถามตัวเองว่า..“พระหลวงปู่มั่นมาโปรดแท้ ๆ คนแปลความฝันก็เป็นพระหลวงตา เราติดคาอะไร ห่วงอะไร-อาลัยอะไร” นั่นทำให้ท่านคิดและตัดสินใจได้เร็วขึ้น 
ท่านจึงขออนุญาตสามีและลูกๆ ทุกคน เพื่อออกมาปฏิบัติ ถือศีลภาวนา อยู่วัดป่าบ้านตาด เมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๔ โดยอาศัยที่กระท่อมน้อยในป่าทึบ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ยืนต้นเป็นเงาร่มครึ้ม พื้นเบื้องล่างเต็มไปด้วยต้นข้าว สารหนาแน่น 
ในคืนวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๕ เวลา ๕ ทุ่มครึ่ง เป็นคืนที่ ฟ้าครึ้ม และลมพัดแรงมาก ท่านกราบพระแล้วนั่งภาวนาข้อธรรมได้ผุดขึ้นในจิตว่า..“อายตนะนั้นมีอยู่ แต่ไม่มีดิน-น้ำ-ไฟ-ลม ไม่มีจุติเคลื่อน ไม่มีที่ไป ไม่มีที่มา ไม่มีอารมณ์ ไม่มีอารมณ์ นั้นแหละคือที่สุดแห่งทุกข์” คืนนั้น ท่านกราบน้อมถึงคุณพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ถึงคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ โดยเฉพาะพระหลวงตา ทั้งเป็นครูอาจารย์ เป็นพ่อ เป็นพี่ชายในสายโลหิตเดียวกันในชาติปัจจุบัน คืนนั้น ท่านไม่นอนทั้งคืน เมื่อพบพระหลวงตาอีกครั้ง จึงได้กราบเรียนท่านถึงสภาวะธรรมทั้งหมด ที่เกิดขึ้น พอกล่าวจบ พระหลวงตาพูดขึ้นว่า.. “ อ้าย(พี่) หมดห่วงแล้ว...”
น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"

น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"
คุณแม่จันดี โลหิตดี ละสังขารลง เมื่อเวลา ๐๑.๐๓ นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง ภายในกุฏิห้องปลอดเชื้อของท่านฝั่งอุบาสิกา ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี สิริอายุรวม ๘๒ ปี ๑๑ เดือน ๒ วัน คุณแม่จันดี ท่านได้แสดงธรรมความอัศจรรย์ให้เห็นอย่างประจักษ์ชัด กล่าวคือ ท่านสิ้นลมปราณเวลา ๐๐.๔๕ นาฬิกา การเต้นของหัวใจหยุดเวลา ๐๐.๔๘ นาฬิกา และคลื่นไฟฟ้าหัวใจหยุดเวลา ๐๑.๐๓ นาฬิกา หลวงปู่ลี กุสลธโร แห่งวัดภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ท่านได้กล่าวไว้ว่า "คุณแม่จันดีจิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้" และได้มีพิธีประชุมเพลิงสรีระสังขารฯไปในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา คุณแม่จันดี โลหิตดี "อริยสาวิกา น้องสาวขององค์หลวงตา ผู้เปรียบดั่งเป็นมารดา และครูอาจารย์ของศิษยานุศิษย์วัดป่าบ้านตาด ผู้คนไม่ได้แค่เคารพนับถือคุณแม่จันดี โลหิตดี ในฐานะผู้เป็นญาติทางสายโลหิตขององค์หลวงตามหาบัว เท่านั้น แต่ผู้คนต่างเคารพนับถือคุณแม่จันดี โลหิตดี ในอริยะปฏิปทาผู้เป็นญาติทางธรรมขององค์พระบรมศาสดา" 

ชมภาพบรรยากาศงานประชุมเพลิงคุณแม่จันดี โลหิตดี “อริยสาวิกาผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม” ได้ที่ลิงค์
https://www.facebook.com/thindham/media_set?set=a.595855743798304.1073741875.100001216522700&type=3

ที่มา ข้อมูล และภาพประกอบจาก FB เพจท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน และเพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น

น้อมรำลึก ๔ ปีวันละขันธ์ของคุณแม่จันดี โลหิตดี ผู้ที่วาระสุดท้าย หลวงปู่ลีกล่าวว่า"จิตเพิ้นสะอาดดีแล้ว บ่ต้องสรงน้ำให้เพิ้นก็ได้"