- 16 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 21.30 น วันที่ 15 สิงหาคม 2560 นางสาวธัญนันท์ แก้วเกิด ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการพิเศษ สำนักพัฒนานวัตกรรม การจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้นำคณะนักเรียนไทยที่เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ China Anshan International Robotic Olympiad 2017 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 – 15 สิงหาคม 2560 ที่เมืองอานชาน มณฑลเหลี่ยวหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยสามารถคว้าแชมป์เปี้ยนหุ่นยนต์บังคับมือ 7 ประเภท พร้อมรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 5 รางวัล รองชนะเลิศอันดับสอง 2 รางวัล รองชนะเลิศอันดับสาม 2 รางวัล รวม 16 รางวัล ได้เดินทางกลับมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการแล้วด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 615 โดยมีบรรดาผู้ปกครองและคณะผู้บริหารโรงเรียนต่าง ๆ ได้เดินทางมารอรับกันอย่างอบอุ่น
โดย นางสาวธัญนันท์ แก้วเกิด ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการพิเศษ สำนักพัฒนานวัตกรรม การจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กล่าวว่า ตามที่ สพฐ.ได้รับเชิญให้คัดเลือกและส่งทีมนักเรียนไทยเข้าร่วมแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ China Anshan International Robotic Olympiad 2017 ที่จัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ 11 – 15 สิงหาคม 2560 ที่โรงเรียนมัธยม Anshan No.1 High School เมืองอานชาน มณฑลเหลี่ยวหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้คัดเลือกนักเรียนทีมหุ่นยนต์ ซึ่งเคยชนะเลิศจากการแข่งขันหุ่นยนต์ สพฐ. ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา 2559 ไปเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 10 โรงเรียน โดยมีการแข่งขันมี 2 ระดับ คือระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา จำนวน 20 ประเภท สามารถคว้ารางวัลจากการแข่งขันได้มากถึง 16 รางวัล รางวัลชนะเลิศ 7 รางวัลได้แก่ หุ่นยนต์ลากเลื่อน หุ่นยนต์หนอนวิ่งเร็วปั่นพลังงานด้วยมือ จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านคอกม้า สพป.ชุมพร เขต 1 / หุ่นยนต์ม้าวิ่งเร็ว 4 ขา ปั่นพลังงานด้วยมือ จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนตลาดบางบ่อ (ศักดิ์ปรีดาประชาสรรค์) สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 / หุ่นยนต์ชกมวย จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม สพป.ชัยภูมิ เขต 1 หุ่นยนต์วิ่งเร็ว 2 ขา ปั่นพลังงานด้วยมือ จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวนาคำ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 / หุ่นยนต์ไตรกีฬา จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนปทุมราชวงศา สพม. เขต 29 และหุ่นยนต์สำรวจดาวนพเคราะห์จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนเมืองกลางประชานุกูล สพม.เขต 28
นางสาวธัญนันท์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ หุ่นยนต์ว่ายน้ำผลัดผสม ปั่นพลังงานด้วยมือ จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม สพป.ชัยภูมิ เขต 1 / หุ่นยนต์ว่ายน้ำท่ากรรเชียง ปั่นพลังงานด้วยมือ หุ่นยนต์ไตรกีฬา จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวนาคำ สพป.ชัยภูมิ เขต 1 / หุ่นยนต์วิ่งเร็ว 2 ขา ปั่นพลังงานด้วยมือ จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนปทุมราชวงศา สพม.เขต 29 และ หุ่นยนต์เตะฟุตบอล จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนโนนสูงศรีธานี สพม.เขต 31 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ หุ่นยนต์ชกมวย จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนทีโอเอวิทยา สพป.มุกดาหาร และหุ่นยนต์ว่ายน้ำท่ากบ จากโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล สพม.เขต 30 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ หุ่นยนต์ลากเลื่อน จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) สพป.มุกดาหาร หุ่นยนต์ไตรกีฬา จากการประดิษฐ์ของนักเรียนโรงเรียนตลาดบางบ่อ (ศักดิ์ปรีดาประชาสรรค์) สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 การแข่งขันในครั้งนี้มีทีมนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง มาเก๊า เซี่ยงไฮ้ และประเทศไทย จำนวน 240 ทีม มีนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน 400 คน
จากการแข่งขันหุ่นยนต์ในรายการดังกล่าว นักเรียนไทยได้แสดงความสามารถอย่างสุดฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ และการฝึกซ้อมการควบคุมหุ่นยนต์ให้สามารถทำภารกิจได้อย่างรวดเร็วตามที่กติกากำหนด แสดงให้เห็นถึงความรู้ ทักษะ ความสามารถของเด็กไทยด้านหุ่นยนต์ในเวทีนานาชาติ ซึ่ง สพฐ.จะได้มีการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักเรียนในด้านนี้ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
ด้านเด็กชายณัฐพล สิงยะเมือง อายุ 11 ปี และเด็กหญิงกันธิชา ป้อมแดง อายุ 9 ปี ได้กล่าวว่า สำหรับรางวัลที่ตนทั้งสองได้มาเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 โดยได้ส่งหุ่นยนต์ประเภทหนอนวิ่งเร็ว และหุ่นยนต์ม้าลากเลื่อน ซึ่งหุ่นยนต์ทั้งสองตัวนี้เป็นการประดิษฐ์ร่วมกันอาจารย์ ช่วยกันคิดค้นและใช้เศษวัสดุเหลือใช้ประดิษฐ์เป็นหุ่นยนต์ทั้งสองตัวนี้ขึ้นมา และในการแข่งขันก็ไม่หนักใจอะไรเพราะเท่าที่ดูคู่แข่งจากประเทศอื่น ๆ ก็ไม่น่ากลัวอะไร ตนทั้งสองภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ในครั้งนี้
ภาพ/ข่าว ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรปราการ