- 17 ส.ค. 2560
ทางสำนักงานกลางความปลอดภัยออสเตรเลีย ATSB เป็นผู้วิจัยภาพถ่ายเหล่านี้ หลังจากที่ทางหน่วยงานได้รับรูปถ่ายเหล่านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2017
ทางสำนักงานกลางความปลอดภัยออสเตรเลีย ATSB เป็นผู้วิจัยภาพถ่ายเหล่านี้ หลังจากที่ทางหน่วยงานได้รับรูปถ่ายเหล่านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2017 นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยว่าดาวเทียมการทหารที่จับภาพเหล่านี้คือ ดาวเทียมแอร์บัส เพลียอาดิซ ( Airbus PLEIADES)
ทีมวิจัยจาก สำนักงานกลางความปลอดภัยออสเตรเลีย ATSB ได้ใช้โมเดลการเคลื่อนที่ของเศษชิ้นส่วน ที่ถูกถ่ายไว้ได้ เพื่อชี้ถึงพิกัดที่เชื่อว่า จะเป็นจุดตกที่แท้จริง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว กรณี การนำเอาภาพถ่ายดาวเทียมของกองทัพฝรั่งเศส มาทำการวิเคราะห์ เพื่อหาตำแหน่งการตกของเครื่องบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งสูญหายไปตั้งแต่ปี 2014 โดยได้มีการเปิดเผยล่าสุดถึงผลการวิเคราะห์ของภาพถ่ายดาวเทียมกองทัพฝรั่งเศสจำนวน 4 รูป ซึ่งถูกถ่ายไว้ได้เมื่อ 2 สัปดาห์หลังจากที่MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ตกวันที่ 8 มีนาคม 2014
ทางสำนักงานกลางความปลอดภัยออสเตรเลีย ATSB เป็นผู้วิจัยภาพถ่ายเหล่านี้ หลังจากที่ทางหน่วยงานได้รับรูปถ่ายเหล่านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2017 นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยว่าดาวเทียมการทหารที่จับภาพเหล่านี้คือ ดาวเทียมแอร์บัส เพลียอาดิซ ( Airbus PLEIADES)
ทีมวิจัยจาก สำนักงานกลางความปลอดภัยออสเตรเลีย ATSB ได้ใช้โมเดลการเคลื่อนที่ของเศษชิ้นส่วน ที่ถูกถ่ายไว้ได้ เพื่อชี้ถึงพิกัดที่เชื่อว่า จะเป็นจุดตกที่แท้จริง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 5,000 ตารางกิโลเมตร ห่างไปทางเหนือของพื้นที่ค้นหาอย่างเป็นทางการในปัจจุบัน
โดยภาพถ่าย 4 ใบแสดงให้เห็นถึงวัตถุจำนวนมากกว่า 70 ชิ้นลอยกลางทะเล แต่ในรายงานสรุป ชี้ว่า มีวัตถุลึกลับ 12 ชิ้นที่เชื่อว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งดาวเทียมฝรั่งเศสจับภาพไว้ได้บริเวณมหาสมุทรอินเดียเมื่อ 23 มีนาคม 2014
นอกจากนั้นรายงานยังได้สรุปว่ามีการพบวัตถุลึกลับที่เชื่อว่ามนุษย์สร้างขึ้นจำนวน 12 ชิ้นลอยอยู่กลางทะเล นั้นถูกพบในรูปกลุ่มกระจุกตัว มากกว่าที่จะกระจายแบบไร้รูปแบบไปทั่วบริเวณ เป็นการสนับสนุนทฤษฎีของ ATSB ที่ได้สรุปในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เที่ยวบิน MH370 น่าจะตกที่ห่างไปทางเหนือของน่านน้ำพื้นที่ทางออสเตรเลียได้ใช้ระยะเวลา 2 ปีครึ่งในการค้นหา นอกจากนั้นรายงานฉบับนี้ยังได้ระบุพิกัด 35.6°S, 92.8°E. ซึ่งอยู่ระหว่างเวสต์เทิร์นออสเตรเลียและมาดากัสการ์ โดยการใช้การวิเคราะห์จากภาพถ่าย และการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งพิกัดน่าจะอยู่ในพื้นที่มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งยังไม่ได้ถูกค้นหา