- 17 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนและร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.60 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบตัวของ น.ส.จุฑาภรณ์แต่อย่างใด ขณะที่ตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ ได้จัดตั้งชุดคลี่คลายคดีนี้ เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านปังปังภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.อุไรวรรณ ธรรมคุณ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ที่หายตัวไป เปิดเผยว่า น.ส.จุฑาภรณ์ ได้มารู้จักกับนายทหารคนหนึ่งยศร้อยเอก เมื่อวันที่ 3 พ.ย.59 จากนั้นได้มีความสนิทสนมกัน ซึ่งตนทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ต่อมา นายทหารยศร้อยเอกได้ขอยืมเงินจาก น.ส.จุฑาภรณ์หลายครั้ง ๆ ละ 20,000 – 30,000 บาท รวมแล้วหลายครั้ง เป็นยอดเงินยืมที่สูงมากพอสมควร ซึ่งตนได้พยายามตักเตือน น.ส.จุฑาภรณ์ว่า ควรจะตีตัวออกห่างมาได้แล้ว เกรงว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีไม่งามขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่ตนได้เตือน น.ส.จุฑาภรณ์ไปแล้ว ปรากฏว่า น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ห่างหายจากตนไปประมาณ 4 – 5 เดือน ต่อมาช่วงปลายเดือน มิ.ย.60 น.ส.จุฑาภรณ์ได้มาชวนตนว่า ขอให้ไปเป็นเพื่อน เพื่อไปพบกับนายทหารระดับสูงคนหนึ่งที่ค่ายทหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อที่จะเข้าไปร้องทุกข์ เนื่องจากว่านายทหารยศร้อยเอกยืมเงินไปแล้ว ไม่ยอมคืนให้ อีกทั้ง จากการที่ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ทวงเงินอย่างต่อเนื่องจากนายทหารยศร้อยเอก ทำให้นายทหารคนดังกล่าวนำเอาบัตรเอทีเอ็มมามอบให้ น.ส.จุฑาภรณ์ แต่เมื่อนำเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินแล้ว ก็ไม่มีเงินออกมา
น.ส.อุไรวรรณ กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ตนได้ทราบเรื่องนี้แล้ว ก็ได้แจ้งให้นายทหารคนดังกล่าวได้รับทราบ เพื่อขอให้นำเอาเงินมาคืนให้ น.ส.จุฑาภรณ์ แต่ว่ายังไม่ทราบผล พอวันที่ 29 มิ.ย.60 น.ส.จุฑาภรณ์ได้ส่งไลน์รวมทั้งโทรศัพท์มาชักชวนให้ตนไปเป็นเพื่อนเพื่อดื่มน้ำเย็น ๆ ที่ห้องนายทหารระดับสูงที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตนผลัดไปว่าขอให้เป็นอาทิตย์หน้า เนื่องจากว่าช่วงนี้ติดงานหลายอย่าง จากนั้น วันที่ 3 ก.ค.60 หลังจากที่ น.ส.จุฑาภรณ์มาส่งลูกที่ ร.ร.แล้ว ทราบว่า เดินทางไปที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตนไม่ทราบว่าไปที่ใด ซึ่ง น.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อนของตนคนนี้ เป็นคนดี รักครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะรักลูกมาก จะไปไหนไกล ๆ ห่างลูกไม่ได้ ซึ่งการที่ น.ส.จุฑาภรณ์จะไปร้องทุกข์กับนายทหารระดับสูง เพื่อให้ช่วยติดตามทวงเงินจำนวนมากจากนายทหารยศร้อยเอก คาดว่าจะเป็นปมสังหารอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ น.ส.จุฑาภรณ์ถูกอุ้มหายตัวไปในครั้งนี้ก็เป็นได้
น.ส.อุไรวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงกลางคืนแทบทุกวัน ตนจะฝันว่า น.ส.จุฑาภรณ์จะมานั่งก้มหน้าอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตนก็ร้องเชื้อเชิญให้เข้าบ้าน แต่ น.ส.จุฑาภรณ์ ก็จะไม่เข้าบ้าน แล้วยกมือ 2 ข้างขึ้นมา ทำท่าเหมือนกับตะกุยดิน แล้วก็จางหายไป รวมทั้งร้องไห้คร่ำครวญบ่นว่าคิดถึงน้องใบเฟิร์น ซึ่งป็นลูกสาวมาก ตนคาดว่า น.ส.จุฑาภรณ์อาจจะถูกคุมขังอยู่ที่ใดที่หนึ่งภายในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ก็เป็นได้
ภาพ/ข่าว ชยงค์ มณีพันธุ์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ศรีสะเกษ