ก่อนไปหน้าศาลเสื้อแดงต้องรู้เรื่องนี้! เปิดค่าใช้จ่าย"หญิงปู" สูงลิบเดือนละ2.6 ล้าน หากทำงานเดือนละ1.5 หมื่น ต้องเก็บ14 ปีครึ่ง-ห้ามใช้จ่าย

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

หากไม่นับความผิดทางอาญาที่จะตัดสินกันในวันที่ 25 ส.ค.นี้  คดีทุจริตจำนำข้าวที่มี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หญิงนอมินี เป็นจำเลย ยังมีอีกหลายส่วนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคำสั่งทางปกครองที่เรียกค่าสินไหม 3.5 หมื่นล้านจากเธอ ซึ่งเรื่องนี้มีความเคลื่อนไหวล่าสุดแล้ววานนี้ หลังเงียบหายไปเดือนกว่า ๆ โดยโฆษกศาลปกครองได้ออกมาเผยความคืบหน้าบางประการด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะย้อนให้เห็นอีกครั้งในที่นี่ กลับเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อเดือนของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ที่เธอปูดออกมาเองว่า...เธอนั้นมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนถึงจำนวน 2.6 ล้านบาทไทย และเป็นหนึ่งในคำอ้างที่เธอขอให้ศาลทุเลาคำสั่งทางปกครองอายัดทรัพย์ของเธอดังกล่าว...ซึ่งเธอนั้นอ้างว่า ตนเองลำบากหลังตกงาน (ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ-จากคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสีมิชอบ) และเรื่องนี้มี "เสื้อแดง" ไม่มากคนจะล่วงรู้ข้อเท็จจริง ก่อนที่จะพากันเฮโลไปหน้าศาล เพื่อปกป้อง "เธอ" ตามที่ถูกแกนนำเป่าหูมาในวันที่ 25 นี้้


วานนี้มีข่าวการเมืองสำคัญชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นประเด็นคู่ขนานกับความผิดทางอาญาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย และกำลังจะมีคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค.ที่จะถึงนี้อย่างที่กล่าว

 

นั่นคือกรณีที่ นายสมชาย งามวงศ์ชน โฆษกศาลปกครอง ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองครั้งที่ 2 หลังจากกระทรวงการคลังให้กรมบังคับคดีเริ่มดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินบัญชีเงินฝากจากคดีทุจริตดังกล่าว

โดยนายสมชาย ชี้แจงว่า หลังจากที่ตุลาการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งแจ้งให้กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้อง ส่งคำชี้แจงต่อศาลภายใน 15 วัน ขณะนี้ทราบว่ากระทรวงการคลังได้ส่งเอกสารคำให้การชี้แจงข้อเท็จจริงต่อองค์คณะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนครบกำหนด 15 วันดังกล่าวแล้ว จากนั้นตามขั้นตอนองค์คณะก็จะรวบรวมเอกสารข้อเท็จจริง เพื่อส่งให้ตุลาการผู้แถลงคดีร่วมตรวจดูและทำความเห็นส่วนตน โดยขั้นตอนนี้ที่ตุลาการผู้แถลงคดีจะทำความเห็นน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ 


"คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ถือเป็นคดีเร่งด่วนอยู่แล้ว และเมื่อตุลาการผู้แถลงคดีได้ทำความเห็นส่วนตนเสนอองค์คณะแล้ว องค์คณะก็จะมีคำสั่งออกมา ถ้ามีคำสั่งยกคำร้องการขอทุเลาของผู้ฟ้อง คำสั่งของศาลปกครองกลางนี้ถือเป็นที่สุด อุทธรณ์ไม่ได้ แต่สามารถยื่นคำร้องได้ใหม่หากเกิดเหตุใหม่ แต่ถ้าศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาอย่างหนึ่งอย่างใด คู่ความที่ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้" โฆษกศาลปกครอง ระบุวานนี้

 

ตามคำกล่าวของ นายสมชาย งามวงศ์ชน-โฆษกศาลปกครอง พอจะสรุปได้ว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะรู้ผลว่า ตุลาการผู้แถลงคดีจะพิจารณาเช่นไร...จะยกคำร้อง หรือมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องขอ


อย่างไรก็ตาม หากจะทำความเข้าใจกับประเด็นนี้ ต้องย้อนไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน หรือเมื่อกว่า 4 เดือนก่อน เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองที่จะอายัดทรัพย์เธอ  3.5 หมื่นล้านจากคดีทุจริตข้าว แต่คราวนั้นศาลได้ยกคำร้อง และชี้เปรี้ยงว่า เรื่องนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไข เพราะกรมบังคับคดียังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มีหนังสือแจ้งเตือนเท่านั้น...ยิ่งลักษณ์ฟูมฟายไปเองในตอนนั้น...กระทั่งนายสมชาย โฆษกศาลปกครอง ออกมาเปอดเผยความคืบหน้าล่าสุดวานนี้อย่างที่กล่าว

 


แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ ประเด็นหลักที่จะชี้ให้เห็นในวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่ศาลจะสั่งทุเลาหรือไม่ทุเลา เพราะอย่างน้อยก็ใช้เวลาอีกกว่า 2 อาทิตย์จึงรู้ แต่สิ่งที่จะชี้ให้เห็นคือ ตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อเดือนของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ที่เธอพูดออกมาเองว่าสูงถึง  2.6 ล้านบาทต่อเดือน และนำตัวเลขนี้ไปชี้แจงต่อศาล เพื่อขอทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครอง โดยเธออ้างกับศาลว่า ตัวเองลำบาก  เพราะมีค่าใช้จ่ายมาก

 

 "หลังจากพ้นตำแหน่งนายกฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2557 ลงวันที่ 7 พ.ค.57 ให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแล้ว และปัจจุบันเธอมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพตามสถานะทางสังคม และฐานานุรูปที่เป็นอดีตนายกฯ และผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชนหลายแห่ง โดยเฉลี่ยเดือนละ 2,650,000 บาท" อดีตนายกฯ หญิง ระบุ


ว่าไปแล้วเงิน 2.6 ล้านบาทต่อเดือน นับเป็นเงินจำนวนมหาศาลหากเทียบกับรายได้ของประชากรประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเรา หากยึดหลักง่าย ๆ ตามนโยบายประชานิยมสิ้นคิด "เงินเดือน 15,000 บาท" ของพรรคเธอเอง ชายหนุ่ม-หญิงสาวที่จบปริญญาตรีใหม่ ๆ ที่ได้เงินเดือน 15,000 ซึ่งน้อยรายที่จะได้จริง หนุ่ม-สาวเหล่านั้นต้องทำงานเก็บเงินถึง 14 ปีครึ่ง...โดยต้องไม่ใช้จ่ายใด ๆ เลยในระหว่างนั้น...จึงได้เงินดังกล่าวมาเชยชม


 

...ใช่ คำนวณไม่ผิด หนุ่ม-สาวเหล่านั้นต้องทำงานเก็บเงินถึง 14 ปีครึ่ง...โดยต้องไม่ใช้จ่ายใด ๆ เลย...คำถามคือ เสื้อแดงที่บอกว่า "ตัวเองเป็นไพร่" เป็นคนรากหญ้า...ค่อนข้างยากจน และอาจมีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท ต้องตรากตรำหลังขดหลังแข็งทำงานหนักกี่สิบปี...จึงได้เม็ดเงินเท่ากับ...อดีตนายกฯ หญิงผู้เป็นหุ่นเชิดที่พวกเขาบูชา...ใช้จ่ายแค่เดือนเดียว

 

...อย่าว่าแต่ "คนเสื้อแดงที่เป็นชนชั้นกลาง" บางคน...เก็บงำมาทั้งชีวิตยังไม่เฉียดใกล้ที่เธอจ่ายครึ่งเดือน (หมายถึง 1.3 ล้านบาท)


คราวนี้หากมองลึกลงไปในรายละเอียดยิ่งตกตะลึก เพราะเธอแจ้งว่า เธอมีค่าใช้จ่ายในการพบปะประชาชนถึงเดือนละ 450,000 บาท โดยเธอแจกแจงค่าใช้จ่ายไว้ 5 รายการดังนี้ 1.ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเป็นเงิน 1,000,000 บาท 2.ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา กิจกรรมทางการศึกษา ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของบุตร เป็นเงิน 200,000 บาท 3.ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี 200,000 บาท 4.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 800,000 บาท และ 5.ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นเงิน 450,000 บาท


อย่างที่กล่าวแต่แรก เงิน 2.6 ล้านบาทบางคนทำงานเก็บงำมาทั้งชีวิต...ยังไม่มีโอกาสแม้จะเฉียดเข้าใกล้ ทว่าสิ่งที่น่าห่วงกว่านั้นคือ เสื้อแดงจำนวนมากไม่ทราบข้อเท็จจริงนี้ และอาจตกเป็นเหยื่อของเสื้อแดงบางกลุ่ม ที่เริ่มปลุกระดมให้ชาวแดงออกมารวมตัวกันที่หน้าศาลในวันตัดสินคดีโกงข้าว 25 ส.ค.นี้ โดยหลงลืมไปว่าคนที่ตัวเองจะออกมาปกป้องนั้น...ปล่อยปละให้มีการทุจริตเช่นไร และเธอนั้นโคตรอภิมหารวยใช้เงินอู้ฟู่เดือนละ 2.6 ล้าน และมีชีวิตที่สุขสบายกว่า "รากหญ้า" อย่างตนแค่ไหน