ติดตามได้ที่ deeps.tnews.co.th

นาย ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการปล่อยข่าวในลักษณะอ้างแหล่งข่าวที่ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนได้ว่าเป็นใคร แม้แต่สื่อมวลชนรายใหญ่ที่มีทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ก็เสนอข่าวด้วย

 

ข่าวดังกล่าวอ้างว่า คดีรับจำนำข้าวที่นัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง จะมีคำพิพากษาว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีความผิดให้ยกฟ้องโจทก์

 

ในฐานะเคยทำหน้าที่เป็นองค์คณะผู้พิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีแรกของศาลมาก่อน จึงรู้กระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลนี้ดีคือ เมื่อสืบพยานโจทก์ จำเลย เสร็จและนัดฟังคำพิพากษาแล้ว องค์คณะผู้พิพากษาแต่ละท่านต่างก็พิจารณาวินิจฉัยว่าจะมีคำพิพากษาอย่างไรและทำคำวินิจฉัยของตนเอง โดยไม่ได้ปรึกษาหารือกับองค์คณะท่านอื่นๆ

ในวันนัดฟังคำพิพากษาองค์คณะผู้พิพากษาจะมีการประชุมกันในตอนเช้าก่อนเวลานัดฟังคำพิพากษาและลงมติกันว่า จะมีคำพิพากษาว่าอย่างไร จำเลยมีความผิดหรือไม่ ลงโทษหรือยกฟ้อง ถ้าลงโทษเป็นโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษจำคุกกี่ปี โทษปรับเท่าใด โทษจำคุกจะรอการลงโทษหรือไม่ การลงมติให้ถือเสียงข้างมาก เมื่อลงมติกันอย่างไรก็จะพิมพ์คำพิพากษาแล้วจึงอ่านให้คู่ความฟัง

 

ณ วันนี้ แม้แต่องค์คณะผู้พิพากษาคดีนี้แต่ละท่านก็ทราบเฉพาะตัวท่านเองเท่านั้นว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ไม่อาจทราบได้ว่าท่านอื่นอีก 8 ท่านจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร แต่ละท่านจึงยังไม่ทราบว่า องค์คณะผู้พิพากษาอีก 8 ท่านแต่ละท่านจะมีมติว่าอย่างไรและมติเสียงข้างมากจะมีว่าอย่างไร

 

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งทราบว่า ศาลฯจะมีคำพิพากษาอย่างไร ที่มีการปล่อยข่าวว่าศาลจะพิพากษายกฟ้อง จึงเป็นการกล่าวเท็จอย่างแน่นอน

ขอบอกให้สื่อมวลชนทราบว่า คดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฯ การนำเนื้อหาของคดีมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าในทางหนึ่งทางใด ศาลจะพิพากษาลงโทษหรือยกฟ้อง อาจมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32 ได้ และมีโทษตามมาตรา 33 คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ