ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ศาลเจ้าพ่อขุนทุ่ง และดินแดนอาถรรพ์แห่งศาลายา....

 

 

คนเก่าคนแก่ของมหาวิทยาลัยมหิดล เล่าว่า พื้นที่ในเขต "ศาลายา" คือชื่อตำบลหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน จ.นครปฐม และปัจจุบันที่ดินส่วนหนึ่งของ ต.ศาลายา ก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหิดล ในอดีตศาลายานี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งซ่องสุมโจรและเลื่องลือกันว่า "ผีดุ" มักปรากฏตัวให้ใครต่อใครเห็นอยู่เป็นประจำ สาเหตุที่เรียกว่า “ศาลายา” นั้นมีที่มา ด้วยในรัชสมัยของร.๓ ดาวมฤตยูได้โคจรเข้าทับดวงเมือง ความวิปราศเกิดบนแผ่นดิน เมื่อโรคห่าได้ระบาดหนัก ณ สถานที่แห่งนี้ ว่าไม่มีคนดีๆ คนใด จะหาญกล้าเข้ามาช่วย เพราะกลัวจะติดโรค จึงได้แต่เอายามาแขวนไว้ให้คนเจ็บได้หยิบใช้กันเอง โดยผูกยาเป็นห่อๆ ไว้เป็นทานที่ศาลา แต่ช่วยไม่ทัน ตายกันหมดทั้งหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของชื่อ "ศาลายา"

 

 

 ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จึงนับเป็นดินแดนอาถรรพ์ที่หนึ่ง และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่ที่แห่งนี้มาเนิ่นนาน  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านั้นคือ “ศาลเจ้าพ่อขุนทุ่ง” ซึ่งเป็นศาลเก่าแก่ประจำสถานที่แห่งนี้

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!

มีเรื่องเล่าขานกันว่า  ตอนที่กำลังเริ่มจะสร้างตึก จู่ๆ นักศึกษาปริญญาโทก็ถูกผีเข้า เอะอะโวยวาย บอกผมว่าสร้างตึกไม่ได้หรอก เขามายืนชี้ว่าตรงนี้มีคนตายจำนวนมาก เนื่องจาก ศาลายามีศพหรือจิตวิญญาณซ้อนกันอยู่ ๓ ชั้น ชั้นแรกเป็นกลุ่มคนหน้าตาเหมือนแขกมุสลิก ตายเพราะศึกสงครามทับถมกันอยู่ ชั้นที่สูงขึ้นมาเป็นศพผู้คนที่ตายจากโรคระบาด ดังที่กล่าวไป เหนือกว่านั้นก็ยังมีผีใหม่ที่เป็นคนปัจจุบัน ขนเข้ามาไว้ที่อาณาเขตแห่งนี้ คือ สถานที่ดองศพของคณะวิทยาศาสตร์วางทับอยู่เป็นชั้นที่สาม ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความเฮี้ยนอย่างมาก

 

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!

 

 ทางมหาวิทยาลัย จึงต้องจัดหาผู้รู้ในเรื่องของโลกวิญญาณ นั่นคือ ร่างทรงเข้ามา จนได้หารือกันว่าจะตั้งศาล ให้แก่ “เจ้าที่” และร่างทรง ก็ชี้ไปยังจุดใต้ต้นไทรว่าให้ตั้งศาลตรงนี้

จากคำบอกเล่าของคนทรง ได้บรรยายถึงลักษณะของเจ้าที่ ว่า เป็นชายร่างใหญ่ หวีผมแสกกลางท่าทางนักเลง นุ่งโสร่งตาหมากรุก ใส่เสื้อคอกลม ไว้หนวด  โดยผู้รับผิดชอบดำเนินการปั้นให้คืออาจารย์ผดุงศักดิ์ ศิลภรณ์ โรงเรียนเวชนิทัศน์ ศิริราช และมีการสร้างศาลให้ที่บริเวณใต้ต้นไทร ต้นใหญ่ต่อมา

 

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!

 

ในตอนเช้าของวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ เวลาประมาณ ๗.๓๐ น. ก็ถึงเวลา จัดพิธีตั้งศาลเจ้าขุนทุ่งจัดขึ้น

 

วันนั้นมีการตั้งโต๊ะของสังเวยเครื่องคู่ที่หน้าศาล เปิดขวดเหล้าขาวและรินลงครึ่งแก้ว ตั้งกระถางรูป เชิงเทียน ประกาศอัญเชิญให้เจ้าขุนทุ่งสถิตไพศาล คนทรงกราบสามครั้ง ว่านะโมสามจบ ผู้ช่วยคนทรงจุดธูป ๙ ดอก บูชาพ่อแผนเมืองกาญจน์ คนทรงร่ายเนื้อความเป็นทำนอง คล้ายสวดที่เอื้อนเสียงเป็นบางตอน เมื่อมีคนถามพอใจหรือยังที่ตั้งศาลให้ ร่างทรงตอบว่า

 

"ชอบ ถูกใจกูดี ไม่มีอะไรผิดพลาด ควรสังเวยกูทุกวันพระ กูชอบของสีดำ สีม่วง กูชอบควายธนู ป้องกันได้ทุกอย่าง รูปที่เอ็งปั้นมานี้ถูกใจ เหมือนตัวกูมากเลย เจริญพรให้ทุกคนที่ทำดี ให้มีความสุขมากๆ"

 

 นั่นก็คือที่ตั้งศาลพ่อปู่จันทร์ทุ่ง ณ ปัจจุบัน และร่างทรงบอกว่าเจ้าที่ ณ ศาลตรงนี้ จะรับแต่ ผลไม้ ปากริมไข่เต่า ชอบเล่นว่าว ชอบเลี้ยงควาย หลังจากนั้นก็ทำพิธีให้ทุกปี

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!

 

 

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!

 

ที่ศาลพ่อปู่จันทร์ทุ่งแห่งนี้ จะมีการบนบานในเรื่อง สำคัญๆ อย่างเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก คำบอกเล่าของรุ่นพี่ที่บอกต่อๆ กันมาเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลพ่อปู่จันทร์ทุ่งจากพี่ๆ ว่า " หากใครต้องการอะไรให้ไปขอบนกับพ่อปู่ โดยเฉพาะเรื่องของการเรียน" คือ ไม่ให้ติดเอฟ พอไม่ติดเอฟก็เลยมาแก้บน ตามที่พี่ๆ บอกมา  

 

วิธีบูชา ธูป ๙ ดอก ดอกไม้ เทียน ของที่นิยมนำมาบนคือ ว่าว น้ำแดง ดอกไม้ ๔ สี ไก่ชน และ ควายเป็นคู่

เปิดตำนาน ความศักดิ์สิทธิ์บนความเฮี้ยน "ศาลพ่อขุนทุ่ง" ศาลสุดเฮี้ยนแห่งศาลายา คนถูกผีเข้า จนต้องสร้างศาลถวาย!