สิ่งที่อยากรู้..แต่ไม่เคยรู้ชัดๆ ...สิ่งนี้คืออะไร!! ตามไปดู “มักกะลีผล” วัดพระปรางค์มุนี ความเร้นลับที่ยังเป็นปริศนา?!

ความเร้นลับอัศจรรย์ของผลไม้ในตำนานชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในป่าหิมพานต์ รูปร่างภายนอกดูคล้ายมนุษย์ เพราะมีอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟัน นิ้วมือ เล็บ ซี่โครง แต่กลับมีลักษณะที่แห้งเหี่ยว อยู่ในอิริยาบถคู้เข่า ภายใต้ตู้กระจกที่รายล้อมด้วยดอกไม้ ประดับประดาอย่างสวยงาม  ณ ศาลา วัดพระปรางค์มุนี จังหวัดสิงห์บุรี  ซึ่งเรียกว่า  “มักกะลีผล” หรือ “นารีผล” ที่เชื่อว่าเป็นของจริง?!

โดยความเป็นมาของมักกะลีผล 2 ผลที่ปรากฏในวัดพระปรางค์มุนี มาจากหลวงพ่อตุ๊ อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางทุ่ง จังหวัดลพบุรี ท่านได้รับมักกะลีผลจากชายผู้หนึ่ง ลักษณะคล้ายกับฤาษีชีไพร ที่เคยมาขออาศัยอยู่ในวัดเพียงชั่วข้ามคืน    เขาได้บอกกับหลวงพ่อตุ๊ อีกว่า หากจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาก็ให้รีบทำ เพราะหลังจากนี้อีก 4 ปี เจ้าอาวาสก็จะไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น...

 

 

ต่อมาท่านเจ้าอาวาสตุ๊ ได้มอบมักกะลีผลให้กับนายสำเริง ผู้เป็นบุตรชาย  ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ด้านบุตรชาย ได้นำมักกะลีผลไปฝากไว้กับหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งหลวงพ่อจรัญท่านเคยพบกับมักกะลีผลของจริงมาแล้ว บนเขาสิคิริยา ประเทศศรีลังกา   ต่อมานายสำเริง จึงได้ขอคืนและนำไปมอบไว้ที่วัดพระปรางค์มุณี จังหวัดสิงห์บุรี จนถึงปัจจุบัน

 

 

 

ความเชื่อ “มักกะลีผล”  คือ  เป็นผลไม้ในป่าหิมพานต์   ออกดอกเป็นช่อๆมีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีผิวพรรณสดใส ดวงตากลมโต เส้นผมสีทอง บริเวณกลางศรีษะมีขั้วเหมือนกับผลไม้ เรือนร่างไม่มีกระดูก ผลที่ยังอ่อนอยู่ จะมีลักษณะคู้เข่า และขาก็ค่อยๆเหยียดออกเมื่อโตเต็มวัย มีกลิ่นหอม หากเมื่อใดที่มักกะลีผลได้ร่วงลงมา จะมีอายุ 7 วัน สวรรค์ แล้วก็ค่อยๆแห้งเหี่ยว หดลงไปเรื่อยๆ จนมีขนาดเล็กและหายไปในที่สุด  เมื่อมักกะลีผลหล่นจากต้น เหล่าคนธรรพ์และวิทยาธรที่เฝ้าดูอยู่ ก็จะยื้อแย่งกัน เพื่อสนองราคะของตน  … มักกะลีผล ยังเป็นด่านทดสอบจิตใจของเหล่านักพรต ฤาษีอีกด้วย หากจิตใจไม่มั่นคง กิเลสครอบงำ ตบะแตก อยากได้มักกะลีผลมาเชยชม ทำให้อิทธิฤทธิ์ต่างๆที่เคยมีอยู่ ก็จะเสื่อมไป   

 

 

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มีความเชื่อว่า มักกะลีผล เป็นนางฟ้าประเภทหนึ่ง ที่มีวิบากกรรม ทำให้เกิดมาเป็นไม้ผลที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม และไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อปกป้องตนเองจากเหล่าเทวดาที่ปรารถนาอยากเสพสมได้ นางต้องทนทุกข์กับสภาพเช่นนี้ จนกว่าจะหมดกรรม

 

 

 

สำหรับ “มักกะลีผล” วัดพระปรางค์มุนี เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หลายประการ ทั้งการเอ็กซเรย์ ที่ไม่พบกระดูก  ,เส้นขนบริเวณหน้าผากของมักกะลีผลงอกยาวขึ้น , การวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน  ที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจริงๆแล้ว “มักกะลีผล” ที่วัดพระปรางค์มุนี เป็น พืช หรือสิ่งมีชีวิตกันแน่?!

 

 

ความเร้นลับของ “มักกะลีผล” ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป … มีแต่ความเชื่อเท่านั้น ที่จะไขปริศนาในตัวของมันเอง