รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม

วันนี้ (22 สิงหาคม 2560) เวลา 08.45 น. พลเรือเอก พลเดช  เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (รอง ผอ.ศบภ.ทร.) เป็นผู้แทน พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ผอ.ศบภ.ทร.) เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำจังหวัดนครพนม ในจังหวัดนครพนม พร้อม พลเรือตรี นันทพล  มาลารัตน์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะ รองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (รอง หน.ฝกร.ศบภ.ทร.) ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะฯ ร่วมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงการดำเนินการผลักดันน้ำที่ผ่านมา จาก พลเรือตรี วราห์  แทนขำ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม

ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผอ.ศบภ.นรข.) ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม และในเวลา 10.45 น. รองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ พร้อม รองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลของหน่วยที่มาปฏิบัติภารกิจผลักดันน้ำ พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถยนต์ลำเลียงเรือผลักดันน้ำกลับที่ตั้งปกติ หลังเสร็จสิ้นภารกิจผลักดันน้ำ บริเวณจุดวางเรือผลักดันน้ำสะพานข้ามแม่น้ำศรีสงคราม (ปากอูน ศรีสงคราม) จังหวัดนครพนม

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม
 
สำหรับชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม มีหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่สัตหีบ ให้การสนับสนุนรถลำเลียงเรือผลักดันได้แก่ ฐานทัพเรือกรุงเทพ กรมการขนส่งทหารเรือ อู่พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กรมสรรพาวุธทหารเรือ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และกรมสารวัตรทหารเรือ โดยมี นาวาเอก อภิชาติ  ทินนะลักษณ์ รอง ผู้อำนวยการพัฒนาการบริหาร อู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้า เป็น หัวหน้าชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม
 
ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการเดินเครื่องผลักดันน้ำ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2560 บริเวณสะพานสงครามบ้านนาเพียง (ข้ามแม่น้ำศรีสงคราม) บ้านปากอูน ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโข่ง ผ่านแม่น้ำสงคราม ช่วงปากอูน - ศรีสงคราม ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จนถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2560 รวมระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 14 วัน โดยการปฏิบัติที่ผ่านมา เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ทั้ง 47 ลำ สามารถผลักดันน้ำได้ 68,884,704 ลูกบาศก์เมตร หรือ สามารถผลักดันน้ำได้ 104,688 ลูกบาศก์เมตร/เครื่อง/วัน ซึ่งสามารถดึงมวลน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าปล่อยตามธรรมชาติลงสู่แม่น้ำโขงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุขอย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองนโยบายได้อย่างรวดเร็วตามห้วงเวลา
 
ทั้งนี้เรือผลักดันน้ำรวมทั้งสิ้น 47 ลำ มีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำสามารถผลักดันน้ำต่อเนื่องได้ 24.2 ลูกบาศก์เมตร/ นาที จะสามารถดึงน้ำรอบ ๆ ตัวไปได้ 1:3 หรือประมาณ 72.7 ลูกบาศก์เมตร/นาทีสามารถทุเลาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จากกรณีน้ำท่วมได้ สถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ การดำเนินการติดตั้งเรือผลักดันน้ำกรณีเร่งด่วนที่ผ่านมานี้ เป็นไปตามบัญชาของ พลเอกประยุทธ  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งในการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่กำลังพลทหารเรือภาคภูมิใจ พร้อมกับเป็นการยืนยันคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า "ทหารเรือ จะไม่ทิ้งประชาชน" และในวันนี้เนื่องจากสถานการณ์อุทกภับในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลับคืนสู่สถานณ์ปกติแล้ว ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดยหน่วยเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำจะดำเนินการขนย้ายและลำเลียงเรือผลักดันน้ำทั้ง 47 ลำ เดินทางกลับ อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม

รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม

ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจาก : ส่วนประชาสัมพันธ์ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ