- 22 ส.ค. 2560
รองผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบลำแม่น้ำโขง และชุด ฉ.ก.ผลักดันน้ำนครพนม
วันนี้ (22 สิงหาคม 2560) เวลา 08.45 น. พลเรือเอก พลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (รอง ผอ.ศบภ.ทร.) เป็นผู้แทน พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ผอ.ศบภ.ทร.) เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำจังหวัดนครพนม ในจังหวัดนครพนม พร้อม พลเรือตรี นันทพล มาลารัตน์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะ รองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (รอง หน.ฝกร.ศบภ.ทร.) ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะฯ ร่วมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงการดำเนินการผลักดันน้ำที่ผ่านมา จาก พลเรือตรี วราห์ แทนขำ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผอ.ศบภ.นรข.) ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม และในเวลา 10.45 น. รองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ พร้อม รองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลของหน่วยที่มาปฏิบัติภารกิจผลักดันน้ำ พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถยนต์ลำเลียงเรือผลักดันน้ำกลับที่ตั้งปกติ หลังเสร็จสิ้นภารกิจผลักดันน้ำ บริเวณจุดวางเรือผลักดันน้ำสะพานข้ามแม่น้ำศรีสงคราม (ปากอูน ศรีสงคราม) จังหวัดนครพนม
สำหรับชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม มีหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่สัตหีบ ให้การสนับสนุนรถลำเลียงเรือผลักดันได้แก่ ฐานทัพเรือกรุงเทพ กรมการขนส่งทหารเรือ อู่พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กรมสรรพาวุธทหารเรือ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และกรมสารวัตรทหารเรือ โดยมี นาวาเอก อภิชาติ ทินนะลักษณ์ รอง ผู้อำนวยการพัฒนาการบริหาร อู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้า เป็น หัวหน้าชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำ จังหวัดนครพนม
ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการเดินเครื่องผลักดันน้ำ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2560 บริเวณสะพานสงครามบ้านนาเพียง (ข้ามแม่น้ำศรีสงคราม) บ้านปากอูน ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโข่ง ผ่านแม่น้ำสงคราม ช่วงปากอูน - ศรีสงคราม ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จนถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2560 รวมระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 14 วัน โดยการปฏิบัติที่ผ่านมา เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ทั้ง 47 ลำ สามารถผลักดันน้ำได้ 68,884,704 ลูกบาศก์เมตร หรือ สามารถผลักดันน้ำได้ 104,688 ลูกบาศก์เมตร/เครื่อง/วัน ซึ่งสามารถดึงมวลน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าปล่อยตามธรรมชาติลงสู่แม่น้ำโขงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุขอย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองนโยบายได้อย่างรวดเร็วตามห้วงเวลา
ทั้งนี้เรือผลักดันน้ำรวมทั้งสิ้น 47 ลำ มีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำสามารถผลักดันน้ำต่อเนื่องได้ 24.2 ลูกบาศก์เมตร/ นาที จะสามารถดึงน้ำรอบ ๆ ตัวไปได้ 1:3 หรือประมาณ 72.7 ลูกบาศก์เมตร/นาทีสามารถทุเลาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จากกรณีน้ำท่วมได้ สถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ การดำเนินการติดตั้งเรือผลักดันน้ำกรณีเร่งด่วนที่ผ่านมานี้ เป็นไปตามบัญชาของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งในการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่กำลังพลทหารเรือภาคภูมิใจ พร้อมกับเป็นการยืนยันคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า "ทหารเรือ จะไม่ทิ้งประชาชน" และในวันนี้เนื่องจากสถานการณ์อุทกภับในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลับคืนสู่สถานณ์ปกติแล้ว ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดยหน่วยเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำจะดำเนินการขนย้ายและลำเลียงเรือผลักดันน้ำทั้ง 47 ลำ เดินทางกลับ อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจาก : ส่วนประชาสัมพันธ์ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ