- 23 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
จากกรณีที่มีผู้ออกมาร้องเรียนเต็นท์รถมือสอง ย่านถนนกาญจนาภิเษก โดยผู้เสียหายได้ถ่ายคลิปขณะที่กำลังทะเลาะกับเจ้าของเต็นท์รถ ซึ่งเธอบอกว่า “ถูกโกง” เนื่องจากสั่งจองรถอีกคัน แต่กลับได้รถมาอีกคัน คล้ายกับสลับรถ ภายหลังที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็มีผู้เสียหายอีกหลายรายได้ออกมาแสดงตัวว่าถูกหลอกเช่นเดียวกับเจ้าของคลิป ล่าสุดเจ้าของเต็นท์ได้ออกมาตอบว่า ไม่มีการสลับรถหรือนำรถอีกคันมาขายให้ลูกค้า หลังการจองอย่างแน่นอน
ซึ่งตามคลิปที่ตนใช้อารมณ์ต่างๆนั้นระบุว่า ด้วยเพราะลูกค้ารายดังกล่าวมีการตะโกนบอกว่าตนเป็นคนโกง รวมทั้งมีการสั่งให้ลูกสาวที่มาด้วย ถ่ายคลิปไว้พร้อมขู่ประจาน แต่ตนไม่ได้จะหลบหนี ไม่ขายรถแต่อย่างใด ในส่วนเรื่องเงินมัดจำ หากมีการจองแล้ว ลูกค้าผิดสัญญา ไม่รับรถ ก็จะมีการยึดเงินตามประกันปกติ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท., พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ พร้อมด้วยตำรวจ สน.หลักสอง, เจ้าหน้าที่หน้ากองพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าขนส่งทางบก, เจ้าหน้าที่ สคบ. ได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจที่เต็นท์คาร์พาร์ค ตั้งอยู่ภายในศูนย์รวมรถยนต์พีจี ถนนกาญจนภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม. โดยเต็นท์รถดังกล่าว เป็นเต็มท์รถที่มีปัญหา เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานในการสอบสวนเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน
ด้านนางสาว ทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ เจ้าของเต็นท์รถ CarPark อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ตนเปิดบริการเต็นท์ดังกล่าวมา 8 ปีแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่าตนฉีกเอกสาร ก็ยอมรับว่าฉีกจริงแต่เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีผู้มาซื้อรถยนต์ของตนเป็นรถยนต์เซฟโรเล๊ต แคปติวา โดยทำสัญญาซื้อขายกัน จากนั้นเมื่อถึงวันรับรถผู้ซื้อได้รับรถเป็นเครื่องเบนซิน จึงเกิดความไม่พอใจ หาว่าผิดสัญญา ทำให้มีปากเสียงกันขึ้นโดยผู้ซื้อด่าทอตนว่าขี้โกง ซึ่งการขายรถยนต์ดีเซลจะสูงกว่าและไม่สามารถทำได้ เพราะผิดเงื่อนไขในการซื้อขายจึงไม่คืนเงินมัดจำให้
ด้านพลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ระบุว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ดำเนินการควบคุมตัว นางสาว ทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ อายุ 38 ปี เจ้าของเต็นท์รถมาดำเนินคดีแล้ว ในฐานความผิดทั้งสิ้น 7 ข้อหา ประกอบด้วย เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น / เป็นผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ใช้เเล้วโดยไม่มีฉลากสินค้าหรือมีฉลากแต่ฉลากสินค้านั้นไม่ถูกต้อง / ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่วยรถยนต์ใช้เเล้วไม่จัดให้มีหลักฐานการรับเงินให้ถูกต้องหรือมีหลักฐานการรับเงินแต่ไม่ส่งมอบหลักฐานการรับเงินที่มีข้อความและรายการที่ถูกต้อง / ฉ้อโกงประชาชน / ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม กรณี นำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาใช้ / นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ / ค้าของเก่าโดยใบอนุญาตขาดอายุ
นอกจากนี้ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบรถที่มีอยู่ในเต็นท์จำนวน 83 คันในเชิงลึกอยู่ คาดต้องใช้ระยะเวลาสักระยะถึงการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น พร้อมยืนยัน ผู้ร่วมขบวนการมีมากกว่า 1 คนแน่นอน โดยภายหลังจากนี้ จะตรวจสอบไปยังเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาว่ามีการฟอกเงิน หรือไม่ และจะนำกำลังเข้าตรวจสอบ เต็นท์รถมือ 2 ทุกที่ที่ได้รับการร้องเรียนว่าเข้าข่ายการกระทำผิดเหมือนกับเต็นท์รถดังกล่าว
ขอบคุณ อัมรินทร์ทีวี