เข้มข้นมาก-ยิ่งใกล้วันยิ่งฉะกันหนัก! "หมอวรงค์"แฉ พท.ดิ้นเฮือกสุดท้ายจำนำข้าว อ้าง"หญิงปู" ถูกกลั่นแกล้ง ที่แท้"ยอมรับความจริงไม่ได้ยกแก๊ง" 

 

เข้มข้นจริงๆ-ยิ่งใกล้วันยิ่งเข้มข้น!! "หมอวรงค์" จ้วงหนัก "แก๊งเพื่อไทย" ออกมาดิ้นคดีจำนำข้าว อ้าง "หญิงปู" ถูก คสช. กลั่นแกล้ง-ที่แท้หวังพ้นผิด ไม่ยอมรับความจริงว่า คดีนี้ปล่อยปละให้เกิดการทุจริต พร้อมระบุ เรื่องเหล่านี้มีจุดเริ่มต้นมาจากอภิปรายในสภา ก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งเรื่องต่อมาที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด

 

วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 วัน กระทั่งมาความเคลื่อนไหวกรณีดังกล่าวหลายกลุ่มก้อน ทั้งจากฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ และฝั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย รวมทั้งกองเชียร์อย่างคนเสื้อแดงเอง

ล่าสุด ต่อกรณีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกออนไลน์ พบว่าในบัญชีเฟซบุ๊ก “Warong Dechgitvigrom” ซึ่งเป็นของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นผู้ที่เกาะติดเรื่องนี้มาอย่างเข้มข้น ได้โพสต์ข้อความ กรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย พยายามสร้างกระแสว่า คดีรับจำนำข้าวเกิดจากการที่ น.ส.ยิ่้งลักษณ์ ถูกรัฐบาล คสช.กลั่นแกล้ง โดยหมอวรงค์ ให้ความเห็นทำนองว่า ที่แท้พรรคเพื่อไทยเป็นพวกไม่ยอมรับความจริง

 

โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ หมอวรงค์ ระบุ คือ

 

“พรรคเพื่อไทยพยายามบอกสังคมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกดำเนินคดีในคดีรับจำนำข้าว เพราะถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาล คสช. เราต้องมองย้อนไปในอดีต กระบวนการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบ โดยกระบวนการตรวจสอบนั้นอาศัยรัฐสภา และทุกครั้งที่มีการอภิปราย รวมทั้งตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ประเด็นอภิปรายก็จะวกวนเรื่องโครงการรับจำนำข่าว เพียงแต่ว่าในสมัยมีสภา นางสาวยิ่งลักษณ์คงไม่สนใจที่จะมาตอบกระทู้ด้วยตนเอง อาจจะทำให้เกิดความหลงลืมได้ว่า เรื่องเหล่านี้มีจุดเริ่มต้นมาจากสภา

 

เมื่อผ่านสภามา พรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งเรื่องต่อมาที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ก็มีมติชี้มูลความผิด ทั้งคดีจีทูจีของนายบุญทรง และคดีรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ และเรื่องก็ถูกส่งต่อมาที่อัยการสูงสุด ตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง อสส.และ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ และท้ายที่สุดเรื่องก็ถูกร้องมาที่ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีของนายบุญทรงในข้อหาทุจริต ส่วนคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ในข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย และปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต

 

ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยพยายามบิดเบือนว่า คสช.กลั่นแกล้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ จึงไม่เป็นความจริง กระบวนการตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ในยุค คสช.นี้ องค์กรต่างๆ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่ไว้ ได้ทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ถูกแทรกแซงเหมือนรัฐบาลทุนสามานย์ ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง ที่กล้าแทรกแซงแม้แต่เอาถุงขนมไปทิ้งไว้ที่ศาล ส่งคนไปเจรจากับศาลรัฐธรรมนูญจนถูกติดคุก ที่ซ้ำร้ายคือรัฐบาล คสช.ยังให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องจำนำข้าวน้อยไปด้วยซ้ำ

 

 

 

การดิ้นของพรรคเพื่อไทย จึงเป็นการดิ้นหนีคดีทุจริตและปล่อยปละให้ทุจริต เพียงแต่ไม่ยอมรับความจริงของตนเองเท่านั้นเอง”