"กรมป่าไม้" หนุนธนาคารอาหารชุมชนแม่ฮ่องสอน สร้างรายได้ รักษาป่าอย่างยั่นยืน สืบสานพระราชปณิธาน ในหลวง ร.9

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กรมป่าไม้เป็นหน่วยงานหลักในการประสาน สนับสนุนการดำเนินงานโครงการเพื่อสนองพระราชดำริและนำแนวพระราชดำริไปขยายผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล อาทิ โครงการธนาคารอาหารชุมชนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ปี 2522 ทรงมีพระราชประสงค์ที่สำคัญในการพัฒนาพื้นที่ 3 ประการ คือ การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร และการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ​โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชินีนาถ ได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ว่า “ให้พัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงตัวเองได้ และเหลือจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเริ่มตั้งแต่สร้างแหล่งอาหารเพิ่มเติมเพื่อให้คนและสัตว์ได้บริโภค หรือเมื่อคนเดินเข้าป่าแล้วสามารถเก็บพืชผักตามธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารจากป่าได้ในส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยหรือแหล่งชุมชนนั้น ให้ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ประมง เพื่อบริโภคและจำหน่ายให้มีรายได้ โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ มุ่งหวังให้คนรักป่าและอยู่กับป่าได้อย่างมีความสุข”

 

"กรมป่าไม้" หนุนธนาคารอาหารชุมชนแม่ฮ่องสอน สร้างรายได้ รักษาป่าอย่างยั่นยืน สืบสานพระราชปณิธาน ในหลวง ร.9

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า โครงการธนาคารอาหารชุมชนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปรียบเสมือน การจัดการต่อระบบวงจรการสร้างสะสมอาหารในรูปแบบการผลิต การฝาก การเก็บรักษา การเพิ่มทุน การนำดอกผลไปใช้อย่างมีระบบด้วยการผสมผสานวงจรห่วงโซ่อาหาร ด้วยการใช้ระบบนิเวศวิทยาให้เกื้อกูลกันทั้งระบบจากแนวพระราชดำริของทั้ง 2 พระองค์ คณะทำงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการจัดทำโครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดำริ แห่งแรกขึ้นที่บ้านนาป่าแปก ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อปี 2543 เป็นต้นมา และทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร โครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดำริ บ้านนาป่าแปก เมื่อปี 2544 ซึ่งผลการดำเนินโครงการเป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และทรงถือเป็นต้นแบบในการพัฒนาและขยายผลต่อไป

 

"กรมป่าไม้" หนุนธนาคารอาหารชุมชนแม่ฮ่องสอน สร้างรายได้ รักษาป่าอย่างยั่นยืน สืบสานพระราชปณิธาน ในหลวง ร.9

 

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ได้สืบสานพระราชปณิธานของทั้ง 2 พระองค์ ขยายผลต่อในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนล่าง ในพื้นที่บ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่ 3 บ้านท่าโป่งแดง หมู่ที่ 5 บ้านหัวน้ำแม่สะกึ๊ด และบ้านแม่สะกึด หมู่ที่ 10 และบ้านม่อนตะแลง หมู่ที่ 11 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมพื้นที่ 10,200 ไร่ ซึ่งจะมีการปลูกพืชประเภทสมุนไพร อาหารกินได้ ไม้ยืนต้น ไม้ใช้สอย เช่น เห็ดถอบนึ่ง น้ำผึ้งเดือนห้า หน่อไม้ดองเต้าเจี๊ยว ข้าวลูกเขย ซึ่งกรมป่าไม้ได้ต่อยอดขยายผลต่อไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงด้วยการประสานความร่วมมือ สร้างกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ขณะนี้มีอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มหน่อไม้ดองเต้าเจี้ยว 2.กลุ่มน้ำผึ้งเดือนห้า 3.กลุ่มปลูกพริกกระเหรี่ยงดอย 4.กลุ่มปลูกข้าวหอมใบเตย และ5.กลุ่มปลูกข้าวหอมนิล อีกทั้งชุมชนยังผสมผสานระหว่างข้าวหอมใบเตยและข้าวหอมนิลมาผสมรวมกันเป็นชื่อใหม่ว่า ข้าวลูกเขย สร้างความเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย ทั้งนี้กรมป่าไม้จะสอนกรรมวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เป็นสินค้าชุมชน  รวมทั้งสนับสนุนด้านการตลาด ออกจำหน่ายตามงานจังหวัด มีการจัดบูธสินค้า เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์จากฝืมือชุมชน และเป็นสินค้าที่มาจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้ชาวบ้านภูมิใจในสิ่งที่ตนเองทำด้วยการพึ่งพาตนเองและอยู่อย่างเกื้อกูลกัน โครงการดังกล่าวสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้ให้ราษฎรไม่ต่ำกว่า 4,000 – 5,000 บาทต่อครอบครัวต่อเดือน 

 

"กรมป่าไม้" หนุนธนาคารอาหารชุมชนแม่ฮ่องสอน สร้างรายได้ รักษาป่าอย่างยั่นยืน สืบสานพระราชปณิธาน ในหลวง ร.9

 

"โครงการธนาคารอาหารชุมชนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะช่วยให้ราษฎรมีแหล่งอาหารในพื้นที่ของตนเอง ลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกพืชอาหารในพื้นที่ของตนเอง สร้างรายได้จากการใช้ทรัพยากรที่มีในป่า ทำให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่สำคัญคนในชุมชมโดยรอบจะช่วยป้องกันรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูสภาพป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวทิ้งท้าย