"สหรัฐฯ" กลับลำ อยากเจรจา "เกาหลีเหนือ" ยุติความขัดแย้ง คาบสมุทรเกาหลี หลังเดินสายขอใครช่วย ก็ถูกปฏิเสธ

สำหรับมาตรการคว่ำบาตร ที่มีขึ้นล่าสุดนั้น เป็นการสกัดกั้นการเข้าถึงระบบการเงินโลกเกือบทั้งหมดและอายัดทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของสหรัฐฯ โดยหนี่งในผู้ที่ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้คือ นายรูเบน คิราคอสยาน พลเมืองชาวรัสเซียและ Gefest-M LLC บริษัทที่มีสำนักงานกรุงมอสโก ซึ่งทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวหาว่าจัดหาโลหะให้แก่ Korean Tangun Trading Corp บริษัทต้องห้ามตามมาตรการคว่ำบาตร จากความเกี่ยวพันกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

 

 

สหรัฐฯได้ออกมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 6 รายและองค์กร 10 แห่งของรัสเซียกับจีน เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาพวกเขาให้การสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือและพยายามหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยมาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความพยายามของสหรัฐฯ เพื่อสกัดกระแสเงินสดที่เกาหลีเหลือใช้เป็นทุนสำหรับโครงการพัฒนาอาวุธ รวมถึงดำเนินการคว่ำบาตรกับบริษัทที่เข้าไปจัดการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินและแร่ ซึ่งจะเป็นส่วนของแหล่งเงินทุนที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ ต่อเกาหลีเหนือนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาอาวุธ

นอกจากนั้นแล้วทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้จีน เพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือมากยิ่งขึ้น ในการที่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่จีนเองนั้น ก็ได้จับมือกับรัสเซีย ในการเห็นชอบกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการขยายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งสองยืนยันตรงกันว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการเข้าสู่โต๊ะเจรจา
 

 

สำหรับมาตรการคว่ำบาตร ที่มีขึ้นล่าสุดนั้น เป็นการสกัดกั้นการเข้าถึงระบบการเงินโลกเกือบทั้งหมดและอายัดทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของสหรัฐฯ โดยหนี่งในผู้ที่ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้คือ นายรูเบน คิราคอสยาน พลเมืองชาวรัสเซียและ Gefest-M LLC บริษัทที่มีสำนักงานกรุงมอสโก ซึ่งทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวหาว่าจัดหาโลหะให้แก่ Korean Tangun Trading Corp บริษัทต้องห้ามตามมาตรการคว่ำบาตร จากความเกี่ยวพันกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

อีกบริษัทได้แก่ Dandong Rich Earth Trading Co. Ltd. ของจีน ที่สหรัฐฯระบุว่าดำเนินงานในนามสำนักงานพลังงานปรมาณูของเกาหลีเหนือ ซึ่งรับผิดชอบโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือและอำนวยความสะดวกแก่การส่งออกแร่วาเนเดียม ที่ถูกห้ามตามมาตรการคว่ำบาตร

ส่วนบริษัทที่ 3 Mingzheng International Trading Limited ซึ่งมีสำนักงานทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ กระทรวงการคลังสหรัฐฯบอกว่าเป็นฉากหน้าให้กับธนาคารการค้าต่างประเทศ อันเป็นธนาคารแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหลักของเกาหลีเหนือ

กระทรวงการคลังสหรัฐฯระบุว่าบริษัทอีก 3 แห่งของจีน ได้แก่ Dandong Zhicheng Metallic Materials Co. Ltd., JinHou International Holding Co. Ltd. และ Dandong Tianfu Trade Co. Ltd มียอดนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือรวมกันคิดเป็นมูลค่าเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างปี 2013 ถึง 2016

 

 

 

นอกจากบริษัทแล้ว ทางด้านสหรัฐฯ ยังได้ดำเนินการคว่ำบาตร นายไช ยู่เปิง พลเมืองจีน ผู้บริหารของ Dandong Zhicheng โดยกล่าวหาว่าเคลื่อนย้ายเงินเพื่อประโยชน์แก่เกาหลีเหนือ

นอกจากทางด้านบริษัท และ บุคคลของจีนที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แล้ว ยังมี พลเรือนของรัสเซีย 3 รายได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ประกอบไปด้วย มิคาฮิล พิสคลิน, อังเดรย์ เซอร์บิน และไอรีนา ฮูส ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า ค้าขายน้ำมันในนามของเกาหลีเหนือผ่านบริษัทต่าง ๆ ที่ผ่านทางด้านสิงคโปร์


 

ส่วนเรื่องการดำเนินการจัดการกับเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ นั้นที่ก่อนหน้านี้ ถูกนานา ประเทศร้องขอให้สหรัฐฯ นั้นเจรจากับทางเกาหลีเหนือ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่สหรัฐฯ ก็ปฏิเสธ มาโดยตลอด จนกระทั่งล่าสุด สหรัฐฯ โดยทางด้านเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาระบุ ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ทางสหรัฐฯ จะเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือ หลังจากที่ท่าทีของเกาหลีเหนือนั้นดูยอมรับต่อการคว่ำบาตรของสหประชาชาติมากยิ่งขึ้น

 

เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ยังได้ย้ำกว่า สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นยุทธศาสตร์ 2 ทางในการแก้ปัญหา คือ ใช้ช่องทางการทูตควบคู่กับบทลงโทษทางเศรษฐกิจ ทางด้านสหรัฐฯ ยังคงมีจุดยืน ที่ต้องการให้ เกาหลีเหนือ ล้มเลิกโครงการขีปนาวุธเพื่อนำไปสู่การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี แต่เขาต้องการบอกให้รู้ว่า สหรัฐฯ ก็เล็งเห็นว่าความตึงเครียดลดลง และหวังว่าฝ่ายเกาหลีเหนือจะใช้โอกาสนี้เป็นประตูไปสู่การเจรจา และทำให้สถานการณ์ดียิ่งขึ้นนั่นเอง