อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี ใน ๒ แผ่นดิน จากคนธรรมดาสามัญที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยสูงสุด "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์"

     วันที่ 24 ส.ค.60 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะครม. คสช. พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 97 ปี ล่วงหน้า ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์  ซึ่งวันเกิดจริง คือ วันที่ 26 สิงหาคมนี้ พล.อ.เปรม ก็จะเดินทางไปทำบุญเป็นการส่วนตัว ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 

อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี ใน ๒ แผ่นดิน จากคนธรรมดาสามัญที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยสูงสุด  "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์"

     ทั้งนี้  พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวอวยพร พล.อ.เปรม ว่า "ขอให้แข็งแรงปลอดภัย มีอายุยืนยาวตลอดไป ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.เปรม เป็นตัวอย่างในการรักชาติ จงรักภักดีต่อแผ่นดิน วันนี้ตนเองจะสานต่อเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงมั่นคั่งยั่งยืนในอนาคต สืบสานความจงรักภักดี เพื่อผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง และต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน โดยจะต้องทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ แม้จะต้องสละชีวิตก็ต้องยอม ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เคยรับสั่งว่า จะต้องรวมจากข้างใน ต้องรวมชาติไม่ให้แตกแยกเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้เป็นสากล มีธรรมาภิบาล โดยขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ พล.อ.เปรม แนะนำเสมอมา เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป และจะต้องไม่ปฏิบัติสิ่งที่ไม่ดีตามที่เคยถวายสัตย์ปฏิญาณเสมอมา ซึ่งตนเองพร้อมจะนำประเทศให้พ้นจากความขัดแย้ง และจะต้องอาศัยสื่อช่วยให้พ้นจากความขัดแย้ง"

 

        ยกตำนาน "ปูชนียบุคคล"ทางการเมืองอย่างแท้จริง สำหรับ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งจะมีอายุครบ 97 ปี ในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคมนี้

          พล.อ.เปรม ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรีจากคำเชิญของรัฐสภาถึง 3 สมัย ระหว่างปี 2523-2531 ครองตำแหน่งนายกฯ นานกว่า 8 ปี 5เดือน นำพาความสงบสุขพาประเทศชาติรอดพ้นวิกฤตทางการเมืองตั้ง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์อ่อนกำลังลง ดูแลบ้านเมืองต่างพระเนตรพระกรรณ จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นองคมนตรีและประธานองคมนตรีถึง2รัชกาล

          ภายใต้วัย 97 ปี พล.อ.เปรม ได้อุทิศชีวิตมาโดยตลอด เป็นบุคคลธรรมดาสามัญคนหนึ่งเป็นคนที่เติบโตมาในกองทัพแบบธรรมดาๆคนนึงเหมือนนายทหารทั่วไป เป็นนายทหารเหล่าทหารม้า สมัยก่อนคนจึงเรียกว่า "ป๋าเปรม" เรียกป๋า..เขาเรียกว่าที่บรรดาทหารม้า จะเรียกผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำเหล่าของเขา

        พลเอกเปรม ได้แก้วิกฤติ ปัญหาเศรษฐกิจที่ใหญ่ยิ่งของประเทศชาติสองครั้ง คือการลดค่าเงินบาทและนำพาประเทศให้ก้าวพ้นจากวิกฤติมาได้ วิธีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยรับฟังจากผู้รู้และตัดสินใจ เมื่อตัดสินใจไปในทางที่ถูกต้อง บ้านเมืองก็ได้รับการแก้ไข ประเทศชาติสมัยพล.อ.เปรมจึงพูดกันว่า ก้าวเข้าสู่ยุคของการโชติช่วงชัชวาล ตอนที่วางมือจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็สำคัญ  พรรคการเมืองเชิญเป็นนายกต่อแต่พล.อ.เปรมบอกว่า พอ หลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี พอแล้ว 

       นั่นเป็นการลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม ไม่ได้เสพติดอำนาจ มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มาจากความคิดที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ชาติบ้านเมือง หลังจากลงจากตำแหน่งนายก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าเป็นรัฐบุรุษ แล้วก็เป็นองคมนตรี แล้วต่อมาก็เป็นองคมนตรี ต่อมาก็เป็นประธานองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนมาถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นประธานองคมนตรี

      อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี ในสองแผ่นดิน หาคนธรรมดาสามัญที่จะได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยสูงสุด อันเป็นเกียรติสูงสุดแก่ชีวิตและวงศ์ตระกูล หาไม่ได้แล้ว ทั้งสิ้นทั้งปวงมาจากคุณงามความดีขอ .."พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์"