- 25 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 09.00 น. 25 ส.ค.2560 ในแม่น้ำปากพนัง บริเวณหน้าศาลาริมน้ำประชาสันต์ (ศาลาแดง) อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชได้มีชาวประมงพื้นบ้านอ่าวปากพนังจาก หมู่ 4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก ,ชาวประมงฝั่งตะวันออก และใกล้เคียง จำนวนประมาณ 300 คน นำโดยนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และรองประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นำเรือประมงขนาดเล็ก (เรือหางยาว) เกือบ 100 ลำ ขับเป็นขบวนมาตามลำน้ำแม่น้ำปากพนัง พร้อมชูป้ายข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจาก คสช.กรณีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำหนดเขตอนุรักษ์และปักคอกเลี้ยงหอยในพื้นที่ที่ชาวประมงได้อาศัยประกอบอาชีพประมงชายฝั่งมาหลายชั่วอายุคน สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบให้ชาวประมงพื้นบ้านปากพนังนับพันครัวเรือน
โดยขบวนเรือประมงได้มาจอดเทียบท่าที่ศาลาประชาสันต์ หลังจากนั้นจึงเดินเท้าไปยังที่ว่าการอำเภอปากพนัง ระทางประมาณ 500 เมตร ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก ก่อนจะเข้าสมทบกับตัวแทนจากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมหารือแนวทางการดำเนินการเรียกร้องหลังจากทั้งสองกลุ่มเคยยื่นหนังสือเรียกร้องและขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลและ คสช.ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เรื่องเงียบหาย
สำหรับการรวมตัวเรียกร้องในครั้งนี้หลังจากชาวบ้านผู้ร้องเดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ทางนายสมยศ สุจริตธนารักษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอปากพนังปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอปากพนัง ได้เชิญชาวบ้านเข้าห้องประชุม พร้อมเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและเจรจาหาข้อยุติ ประกอบด้วยนายสิทธิชัย เนียมรัตน์ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากพนัง นางยุบลรัตน์ ขันธะประโยชน์ รักษาการหัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านประมง สำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสุริยา ชัยชุมพล เจ้าพนักงานป่าชำนาญงาน หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 15 (ปากพนัง นครศรีธรรมราช) 5.นายวุฒิศักดิ์ ดวงศิริ กำนันตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง 6.นายสมเจน รักขประเสริฐ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขา นครศรีธรรมราช
ซึ่งทางนายสมยศ ฯปลัดอาวุโสอำเภอปากพนัง ได้เจรจากับทางกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความดือดร้อนว่าทางอำเภอขอเวลา 4-5 วันเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่า เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีการปักคอกหอยให้ชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่ความดูแลของหน่วยงานไหน และจะได้นัดประชุมหาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง แต่ทางกลุ่มชาวบ้านยืนยันว่าวันนี้ (25 ส.ค.) ต้องยกเลิกโครงการปักคอกหอยทันที จึงไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ชาวบ้านที่รวมตัวประท้วงจึงพากันกลับออกมาจากห้องประชุมและได้ส่งตัวแทนจำนวน 10 คนเดินทางไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัด นครศรีธรรมราช และเนื่องจากโครงการดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการทุจริตคอรัปชั่น เพราะไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฎหมาย จึงและสำนักงาน ปปช.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของหน่วยงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชาวฝั่งอีกด้วย
นายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และรองประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ประกอบอาชีพของชาวประมงโดยทั่วไปในช่วงหน้ามรสุมระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี เดิมทีก่อนจะมีการสร้างประตูอุทกวิภาชประสิทธิ์ ในห้วงเวลานี้ในช่วงมรสุมชาวประมงส่วนใหญ่จะขึ้นไปประกอบอาชีพถึงอำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทร โดยใช้แม่น้ำปากพนังเป็นแต่เป็นแหล่งประกอบอาชีพ แต่ในปัจจุบันกลับไม่สามารถไปประกอบอาชีพได้ เพราะได้มีการสร้างประตูอุทกวิภาชประสิทธิ์ปิดกั้นแม่น้ำปากพนัง ทำให้ชาวประมงท้ายประตูประสบปัญหากระทบเรื่องน้ำเน่าเสีย ซึ่งเกิดจากการระบายน้ำของประตูอุทกวิภาชประสิทธิ์ทุกปี และหลังจากการสร้างประตูอุทกวิภาชประสิทธิ์แล้วมีการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในอ่าวปากพนังตื้นเขินไม่หนำซ้ำศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (พ.ช.) ได้เอาต้นไม้โกงกางใบใหญ่มาปลูกในอ่าวปากพนังทำให้ลำน้ำแคบลงทุกปี และใบโกงกางใบใหญ่ที่ย่อยสลายยากทำให้เกิดแก๊สไข่เน่าเป็นแหล่งน้ำเน่าเสียเพิ่มขึ้นจนสัตว์น้ำไม่สามารถเข้าไปวางไข่ในป่าชายเลนได้ ส่งผลให้สัตว์น้ำสูญหายไปหลายชนิด
“ พื้นที่อ่าวปากพนังไม่ได้เป็นพื้นที่ของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ประชาชนมีสิทธิ์ทำกินได้ทุกหมู่บ้าน ตำบลของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ในกรณีที่ชุมชนบางโก้งโค้งร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประกาศยึดพื้นที่บางส่วนประกาศเป็นเขตอนุรักษ์และเพาะเลี้ยงหอย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ชาวประมงชายฝั่งจากทุกพื้นที่เคยใช้เป็นพื้นที่ทำการประมงในช่วงฤดูมรสุมที่มีคลื่นลมแรง โดยการทำโครงการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ได้แจ้งชุมชนใกล้เคียงและทำประชาคมด้วยว่ามีผลกระทบจากโครงการ พื้นที่อ่าวปากพนังใครหรือชุมชนใดชุมชน และหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะมาดำเนินการโครงการใด ๆ ในลักษณะแบบนี้ เท่ากับเป็นการมาใช้อำนาจโดยมิชอบประกาศยึดพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นของตนเอง หรือกลุ่มของตนเอง จึงเป็นโครงการที่ขาดความชอบธรรม ไม่ดพำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ทำให้ชาวประมงส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าไปทำประมงได้ ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมงเป็นอย่างมาก จึงขอให้รัฐบาลและ คสช.สั่งให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเลิกดำเนินการในโครงการดังกล่าวทันที.
ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช