- 26 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th
- ถ้ากล้าเผชิญหน้าความจริงแล้วแก้ไขในสิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดในอดีต เช่นเคสบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง บมจ.เอคิว เอสเตท หรือ ชื่อเดิม บมจ. กฤษดามหานคร จำกัด ( KMC ) ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะเป็นจำเลยร่วม ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้บริษัทต้องร่วมชำระคืนเงินแก่ธนาคารกรุงไทย ในจำนวนเงินมูลค่าสูงถึง 10,004 ล้านบาท จน ต.ล.ท.ต้องขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP หุ้น AQ หรือ บมจ.เอคิว เอสเตท (ชื่อเดิมก็คือบมจ. กฤษดามหานคร จำกัด หรือ KMC ) ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.2560 ที่ผ่านมา
จากนั้นก็มีข้อมูลเชิงลึกยืนยันมาเป็นลำดับ ว่าสถานการณ์ทุกอย่างกำลังจะพลิกผันแบบสุด ๆ เพราะนอกจาก AQ จะเปิดดีลธุรกรรมสะสางหนี้งวดแรกมูลค่า 1,635 ล้านบาทให้กับธนาคารกรุงไทย ถึงขั้นทำให้ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยเชื่อมั่นว่ามูลหนี้ทั้งหมดจะได้รับการชำระทั้งจำนวนภายในไตรมาส 4 ของปีนี้แล้ว
ประเด็นข่าวร้อน ๆ ว่าด้วยที่ดิน 4.3 พันไร่แสนสวย ซึ่งเคยเป็นทุกขลาภของ AQ และกำลังจะกลายมูลค่าเป็นยิ่งกว่าขุมทองคำ ด้วยตัวเลขที่มีการประเมินเบื้องต้นว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 4 ล้านบาทต่อไร่ ก็มีความคืบหน้าเป็นลำดับ !! (คลิกอ่านข่าวประกอบ : อินไซด์ตลาดหุ้น!! ล่าสุดๆ AQ ควักเงินสด 1,635 ล้านจ่ายหนี้ “แบงก์กรุงไทย” จับตาบทสรุปที่ดินแปลงงาม 4.3 พันไร่ สร้างกำไรหมื่นล้าน !?!)
ล่าสุดในแวดวงตลาดหุ้นเมืองไทย อื้ออึงกันให้แซดผ่านเวทีกอสซิป ต่อกระแสการไหลกลับสู่กระดานหุ้นของ AQ ว่า กำลังจะมีข่าวดีตามมามากมาย !! ตามข้อความปรากฏว่า “ การ Turnaround ของ AQ หลังจูบปากคืนหนี้ 1,635 ล้านบาทให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เรียบร้อยแล้วเมื่อ 17 สิงหาคม 2560 ได้สร้างความชื่นมื่นทั่วหน้ากับทุกฝ่าย
ประเด็นสำคัญ คือ จากนี้เป็นต้นไป AQ อยู่ในสถานะลอยตัว ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ว่าจะมีใครมาจ้องยึดทรัพย์ และยังจะ Reverse สำรองหนี้ 5 พันล้านบาทมาเป็นกำไรได้อีก ส่วน KTB ก็งบดี บันทึกรายได้ทันที ช่วยแบ่งเบาสำรองจุกอกจากหนี้ EARTH ได้เยอะ
จากนี้ก็รอแค่ลุ้นที่ดินแปลงงาม 4,300 ไร่ ที่เป็นหลักประกันว่า KTB จะเอาออกมาขายทอดตลาดเมื่อไหร่ ส่วนราคาไม่ต้องลุ้นแล้ว ยืนพื้น 9,000 ล้านบาท และแน่นอน AQ ก็จะมีสิทธิรับเงินคืนก้อนโต แถมยังได้สิทธิไล่บี้เอาหนี้คืนจากจำเลยตามคำพิพากษาได้อีก นับว่ามูลค่า hidden มหาศาล !?!
เพราะที่ดิน 4.3 พันไร่ เป็นที่สีม่วงใกล้สุวรรณภูมิ ราคาขายที่ดินนิคมแถวนั้นตอนนี้อยู่ที่ 10-12 ล้านขึ้น หากยังไม่พัฒนาน่าจะอยู่ราว 6 ล้าน แต่ที่ AQ ลงบัญชีราคา 5 พันล้าน ก็เพราะลงตามราคาบังคับขาย
ฉะนั้นเอาราคาที่ดินแบบยังไม่มีการพัฒนาใดๆ มาปรับตัวเลข Book Value ใหม่ (คำนวน Dilution จากเพิ่มทุนล่าสุดแล้ว) ราคาหุ้น AQ จะอยู่ที่เกือบ 60 สตางค์ แบบที่ยังไม่พัฒนา
มิน่าผู้ถือหุ้นที่ รู้ลึก รู้จริง รู้เท่าทัน กลุ่มที่กว้านซื้อหุ้น AQ นอกตลาด ราคา 35-40 สตางค์ สูงกว่าราคาปิดครั้งสุดท้าย 22 สตางค์เมื่อ 2 ปี จึงปฏิเสธขายหุ้นกันถ้วนหน้า
หวังลุ้นสบายๆหาก AQ ได้พัฒนาที่ดิน ราคา 1 บาท น่าจะได้เห็นไม่ยาก # สถานการณ์ร้อนนี้ต้องจับตาไม่กระพริบ !?!