ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุกสรยุทธ 13 ปี 4 เดือน ตามศาลชั้นต้น โกงเงิน อสมท.138 ล้าน

วันที่ 29 ส.ค. 2560  นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา  เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อรับฟังคำคำพิพากษา พร้อมจำเลยรวม 3 ราย ได้แก่ น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้มฯ และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อายุ 47 ปี อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิใบคิวโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว 139 แผ่น เพื่อไปยื่นให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นใบคิวโฆษณาที่แท้จริง เป็นผลให้จำเลยไม่ต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน ส่งผลให้บริษัท อสมท. ได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2559

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องแล้วเห็นว่าอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีซ้ำกับคดีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นคดีหลัก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้นอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้อีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ แต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลรับคดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมไว้พิจารณาต่อ โดยอ้างว่าพฤติการณ์ปลอมเอกสารเกิดขึ้นภายหลังจากคดีติดสินบนและความผิดต่อหน้าที่ของพนักงานในองค์กร

ล่าสุด วันนี้ 29 ส.ค. ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การกระทำของ น.ส.พิชชาภา มีความผิดตามมาตรา 6, 8 และ 11 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 30 ปี ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 20 ปี บริษัท ไร่ส้มฯ สั่งปรับเงิน 1.2 แสนบาท ลดเหลือ 8 หมื่นบาท ส่วนนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา มีความผิดฐานสนับสนุนตามมาตรา 6, 8 และ 11 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 20 ปี ทั้งนี้นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา นำสืบเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ จำเลยยื่นอุทธรณ์ 

 

อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายสรยุทธ และพวก ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คนละ 13 ปี 4 เดือน ทั้งสรยุทธและพวกยื่นขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่ศาลมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย และให้มารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน