พันธมิตรฯ ตกผลึก-จ่อฟ้อง "ป.ป.ช." ตัดตอนคดี 7 ตุลาฯ 51 ไม่อุทธรณ์ "สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-บิ๊กป๊อด"

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


พันธมิตรฯ ตกผลึก แแกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 จ่อฟ้อง "ป.ป.ช." ตัดตอนคดี 7 ตุลาฯ 51 ไม่อุทธรณ์ "สมชาย-บิ๊กจิ๊ว-บิ๊กป๊อด" ยื่นอุทธรณ์แค่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลงมติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการฝืนมติ ป.ป.ช.ชุดเดิมที่มีหลักฐานชี้มูลความผิดจำเลยทั้ง 4 อย่างชัดเจน


วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์คณะทำงานพันธมิตรฯ ฉบับที่ 3/2560 ภายหลังจากการประชุมหารือ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติยื่นอุทธรณ์คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 51 แค่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. และเป็น ผบ.เหตุการณ์ในวันนั้นเพียงคนเดียว และไม่ยื่นอุทธรณ์ 3 ผู้บริหารรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งได้แก่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี,พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.

 

โดยพันธมิตรฯ มีมติว่า จะดำเนินคดีความอาญาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวข้องกับการลงมติดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลงมติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการฝืนมติ ป.ป.ช.ชุดเดิมที่มีหลักฐานชี้มูลความผิดจำเลยทั้ง 4 อย่างชัดเจน และมติของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยกฟ้องคดีดังกล่าว ก็ไม่เป็นเอกฉันท์ มีผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยที่ให้เอาผิดจำเลยทั้ง 3 คนด้วย และคำวินิจฉัยของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยในคดีนี้ก็มีน้ำหนักเพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะไม่อุทธรณ์จำเลยทั้งสามคน

 

นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า กรณีของ พล.ต.ท.สุชาติ น่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกจำคุก 42 ปี ในคดีระบายข้าวแบบจีทูจี คือ กูพูดไม่ได้ และมีความพยายามจงใจจะตัดตอนกัน และเป็นการเลือกปฏิบัติ มติ ป.ป.ช.ครั้งนี้ขัดแย้งกับผลการไต่สวนของ ป.ป.ช.เอง จะอ้างว่าเป็นคณะกรรมการคนละชุดก็ไม่ได้ หลักชี้มูลก็จะไม่มีหลัก เปลี่ยนไปตามทิศทางลม สุดท้ายเรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องทำให้เกิดบรรทัดฐานในการชุมนุมที่ควรจะเป็น และการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่

 

"ถ้าไม่อุทธรณ์ 3 คน แสดงว่าฝ่ายการเมืองซึ่งต่อไปในอนาคตมีการชุมนุมก็สั่งตำรวจให้สลายการชุมนุม แล้วสุดท้ายตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ก็กลายเป็นจำเลยไปในที่สุด อันนี้ก็ไม่เป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศด้วยซ้ำไป น่าเสียดายที่ ป.ป.ช.ไม่ได้ตระหนักในหน้าที่ตัวเองที่จะทำให้เกิดคำวินิจฉัยที่จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตได้ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องแสวงหาความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว จากนี้ก็คงจะมีการประชุมเหยื่อ ประชุมทีมกฎหมายว่าจะใช้ช่องทางไหนอย่างไร แต่อยู่ในกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ"  อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรฯ  กล่าว

 

ขณะที่ทางด้านนายวีระ สมความคิด ตัวแทนพันธมิตรฯ ที่ยื่นร้องกรณีสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ต่อ ป.ป.ช.กล่าวว่า มีหลายช่องทางและวิธีที่ดำเนินคดีต่อ ป.ป.ช.ซึ่งสามารถทำได้ทันที ถ้าไม่ประสบผลก็จะมีมาตรการอื่นตามมา ซึ่งคณะทำงานด้านกฎหมายและแกนนำพันธมิตรฯ ขอใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานและประชุมกันอีกครั้งว่าจะเริ่มด้วยวิธีใดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้


ด้านนายศิริชัย ไม้งาม อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 3 กล่าวย้ำในเรื่องเดียวกันนี้ว่า พวกเราในฐานะที่จะเป็นแกนนำหรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คิดว่าการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมให้แก่ผู้สูญเสีย ให้แก่ญาติ เป็นสิ่งที่เราต้องยึดมั่นในอดุมการณ์ว่าสิ่งที่เราทำนั้น ยึดอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติในการตรวจสอบนักการเมือง