ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

" พระโสนามะยักโข เมตตะทันตะ ปะริวาสะโก อะสุนีหะเต โหตุเต ชัยยะมังคะลานิ สุกโกปัญจะ อากาเสจะ พุทธิปังกะโร นะโมพุทธายะ "

            หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล (โสคัณธ์) จังหวัดอยุธยา ท่านเป็นพระเถระยุคเก่าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรเม็ดเอกแห่งพระคณาจารย์เมืองคนดีศรีอยุธยาที่ควรได้รับการยกย่องและสดุดี หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และอีกหลายพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองอยุธยา ก็ยังเป็นศิษย์หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล

          สำหรับเหตุการณ์อัศจรรย์ต่างๆเกี่ยวกับหลวงพ่อที่ได้เล่าขานกันต่อๆมา มีมากมายหลายเรื่อง เช่น

๑. หลวงพ่อดับไฟป่า

            หลวงพ่อปั้นสร้างวัดเนินกุ่ม เพราะ กตัญญูต่อพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงพ่อปั้นธุดงค์ มาองค์เดียว ปักกลดในป่าแห่งหนึ่งมีชื่อว่า ป่าดงหมี ( เข้าใจว่าคงจะไม่ไกลจากหมู่บ้านเนินกุ่มมากนัก ) รอบๆที่ปักกลดของหลวงพ่อเต็มไปด้วยป่า ดูวังเวง ตกดึกคืนนั้น

ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว..แต่ต้องหยุดเพียงแค่รอบกลด หลวงพ่อปั้น ด้วยภาวนาพระคาถาที่ลอยมาในอากาศ ได้ทันท่วงที..

หลวงพ่อปั้น

 

              ไม่รู้ว่าเหตุอันใดไฟป่าได้ลุกลามเข้ามารอบด้าน เป็นผลทำให้ละแวกที่หลวงพ่อปักกลดอยู่ในเขตอันตราย ไฟเข้ามารอบทิศของกลด หลวงพ่อปั้นพระธุดงค์ผู้เรืองวิชากำลังจะหมดหวัง เพราะไม่ได้เรียนวิชาเรียกฝนดับไฟ หลวงพ่อปั้นท่านเล่าให้ชาวบ้านในละแวกนั้นฟังว่า ท่านเองก็คิดว่าครั้งนี้คงจะต้องมรณภาพที่ป่าดงหมีเป็นแน่แล้ว ท่านก็สงบจิต นั่งสมาธิ และแล้วเมื่อจิตเข้าสมาธิท่านได้ยินเสียงลอยมาว่า “สุกโกปัญจะ” ท่านภาวนาเช่นนั้น ต่อมาท่านเห็นคาถาลอยมาว่า “พระโสนามะยักโข เมตตะทันตะ ปะริวาสะโก อสุนีหะเต โหตุเต ชะยะมังคะลานิ สุกโกปัญจะ อากาเสจะ พุทธิปังกะโร นะโมพุทธายะ” ท่านจึงกำหนดจิตว่าตามพระคาถาเหล่านั้นจนจบ ๓ ครั้ง

             ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ไฟป่ารอบ ๆ กลดดับหมด เมื่อท่านรอดชีวิตจากไฟป่าครั้งนั้น ต่อมาได้พบชาวบ้านเนินกุ่ม ครั้นสอบถามจึงรู้ว่าบ้านเนินกุ่มเป็นหมู่บ้านที่ใกล้จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ามากที่สุดฝ่าย ชาวบ้านเนินกุ่มเมื่อพบหลวงพ่อก็เกิดศรัทธา จึงนิมนต์หลวงพ่อไปปักกลดละแวกหมู่บ้าน ซึ่งมีจำนวนไม่กี่หลังคาเรือน หลวงพ่อปั้นท่านรับนิมนต์ ต่อมาท่านได้สร้างวัดเนินกุ่มในปัจจุบันนี้นั้นเอง ตั้งอยู่ที่ ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก

ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว..แต่ต้องหยุดเพียงแค่รอบกลด หลวงพ่อปั้น ด้วยภาวนาพระคาถาที่ลอยมาในอากาศ ได้ทันท่วงที..

๒. หลวงพ่อบังตาได้

             ครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อประมาณ ๗๐ ปีมาแล้ว ปีนั้นเกิดอุทกภัย น้ำท่วมไร่นาเสียหายเป็นจำนวนมาก น้ำป่าท่วมมีสีแดง ชาวบ้านเนินกุ่มเรียกปีนั้นว่าปีน้ำแดง บรรดาสัตว์ป่าจะละทิ้งป่าไปอยู่ตาม ที่ดอนเพื่อเอาชีวิตรอด อาชีพใหม่ของชาวบ้านคือล่าเนื้อสัตว์เป็นอาหารและขายแทบจะทุกวัน หลวงพ่อปั้นท่านมีความเมตตาจึงพาพระลูกวัดขึ้นไปทางเหนือบ้านเนินกุ่ม แล้วท่านก็หยุดกลางทุ่งนา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกยืนยกมือ ซึ่งทิศที่หลวงพ่อหันไปนั้นมีบรรดาสัตว์ต่างๆ ไปหลบภัยเป็นจำนวนมากเมื่อหลวงพ่อทำพิธีเสร็จกลับวัดเนินกุ่ม

          ฝ่ายชาวบ้านที่นิยมล่าสัตว์เป็นอาหาร ไม่ได้ฉงนใจ จึงออกล่าสัตว์ตามปกติก็ไม่พบสัตว์จึงนึก แปลกประหลาดใจว่า สัตว์จำนวนมากไม่รู้หายไหนหมด จึงต้องเลิกล่าสัตว์ทิศนั้นเปลี่ยนทิศไปทางอื่นจึงได้สัตว์

          ฝ่ายหลวงพ่อปั้นท่านรู้เหตุ ท่านจึงออกช่วยสัตว์ในลักษณะเดิม ชาวบ้านจึงรู้ว่าหลวงพ่อปั้น ท่านศักดิ์สิทธิ์บังตาได้ จึงโจษขานเลื่องลือไปทั่วถึงความเมตตาของหลวงพ่อ ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว..แต่ต้องหยุดเพียงแค่รอบกลด หลวงพ่อปั้น ด้วยภาวนาพระคาถาที่ลอยมาในอากาศ ได้ทันท่วงที..

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

 : คาถาครูพักลักจำ

เผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์