ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

เรื่องเล่าขาน "วัวคงกระพันหลวงปู่สุข"

ในสมัย หลวงปู่สุข ธมฺมโชโต มีชีวิตอยู่ มีผู้นำวัวมาถวายเพื่อต่อชะตาชีวิต โดยผู้ถวายได้ซื้อวัวจากผู้นำวัวไปฆ่า เพื่อถ่ายชีวิตให้แก่มัน หลวงปู่รับไว้และเลี้ยงวัวไว้ภายในวัด บางครั้งวัวก็ไปแทะเล็มหญ้า และเข้าไป ในสวนหรือนาของชาวบ้าน ก็ถูกทำร้ายกลับมาอยู่เนือง ๆ หลวงปู่สงสารวัวจึงได้ลงอักขระยันต์คงกระพันที่ตรงใบหูวัว ปรากฏว่าวัวหลวงปู่ไม่มีใครทำอันตรายมันได้ เคยมีคนมาขโมยวัวของหลวงปู่ไปฆ่า แต่ไม่สามารถฟันหรือแทงมันเข้า จำต้องนำวัวมาคืนหลวงปู่ จวบจนวันตัวนี้ถึงแก่อายุขัยได้มีการเผา ปรากฏว่าเนื้อบริเวณที่หลวงปู่ลงอักขระไว้ไม่ไหม้ เป็นที่อัศจรรย์นัก และเป็นเรื่องเล่ากันต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน

สุดอภินิหาร พุทธาคม !!! วัวคงกระพัน ของ หลวงปู่สุข !!! ชาวบ้านแอบขโมยไปฆ่าหลายครั้ง ผลสุดท้ายต้องพากลับมาคืนทุกที !!!

พระครูภาวนาภิมณฑ์ หรือหลวงปู่สุข ธมฺมโชโต เดิมชื่อ สุข นามสกุล ยอดเยี่ยมแกร เป็นบุตรของ นายโฮ และนางแฮม ยอดเยี่ยมแกร อาชีพทำนา ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๒๑ แรม ๕ ค่ำ ปีเถาะ เกิดที่บ้านละหานทราย  หมู่ที่ ๒ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ มีพี่น้องร่วมสายโลหิตจำนวน   ๖ คน หลวงปู่สุขเป็นคน ที่ ๔

ในสมัยนั้นการเรียนหนังสือต้องอาศัยวัด อำเภอละหานทราย ยังเป็นเมืองเล็ก ๆ อยู่ในป่าดงพงพี ถนนหนทางก็ไม่สะดวก เด็กชายสุข เรียนหนังสือขอมที่วัดโพธิ์ทรายทอง  จนสามารถ อ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุ ๑๗ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดโพธิ์ทรายทอง บรรพชาอยู่ได้ ๕ พรรษา

เมื่ออายุได้ ๒๑ ปี จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ทรายทองตำบลละหานทราย อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันพุธที่ ๒๐ พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๔๔๒ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีกุน มีเจ้าอธิการนิ่ม วัดสายน้ำไหล  เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการกลิ่น เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการเกิดเป็นพระอนุสาวนาจารย์  ได้รับฉายาว่า “ธมฺมโชโต” แปลว่า แสงสว่างแห่งธรรม เมื่อหลวงปู่สุขท่านอุปสมบทท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ทรายทอง  

ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนปริยัติธรรมแต่ท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นภาษาขอม จนมีความรู้ แตกฉานสามารถอ่านออกเขียนได้เป็นอย่างดี ท่านศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยที่วัดโพธิ์ทรายทองจนแตกฉานดีแล้ว ท่านก็ตั้งใจที่จะออกธุดงค์เพื่อปลีกวิเวก เพราะหลวงปู่เห็นว่า การที่เล่าเรียนเฉพาะพระธรรมวินัยภายในวัดแต่เพียงอย่างเดียว มันเป็นเพียงแค่เปลือกนอก ไม่ก่อประโยชน์แก่ตัวเองมากนัก ท่านจึงตัดสินใจออกเดินธุดงค์ไปกลายแห่ง ด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน  ท่านได้เรียนกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และด้านพระเวทย์วิทยาคมต่าง ๆ ท่านได้ศึกษากับ พระอาจารย์อินทร์ ภิกษุชาวเขมรซึ่งได้ธุดงค์มาจาก เมืองศรีโสภณ และได้มาสร้าง วัดหนองติม อยู่ในเขต อ.ตาพระยา  ซึ่งเดิมขึ้นอยู่กับ จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่สุขท่านได้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานและก็สมถภาวนาอยู่เป็นประจำ  

สุดอภินิหาร พุทธาคม !!! วัวคงกระพัน ของ หลวงปู่สุข !!! ชาวบ้านแอบขโมยไปฆ่าหลายครั้ง ผลสุดท้ายต้องพากลับมาคืนทุกที !!!    

ปฏิบัติธรรมด้วยความเคร่งครัดจนชาวบ้านกล่าวขานกันว่า ท่านสำเร็จถึงขั้น “อภิญญา” ด้วยวัตรปฏิบัติที่ดีงาม ความสำเร็จทั้งหลายเหล่านี้   ทำให้ขาวบ้านเล่ากันปากต่อปาก ถึงกับมีผู้เสื่อมใสหลวงปู่ ในหลายจังหวัดเดินทางมากราบมนัสการและสนทนาธรรมอยู่อย่างเนืองนิตย์ถนนหนทาง ในสมัยนั้น การคมนาคมยังไม่เจริญเท่าทุกวันนี้ บางคน บางคณะอาจต้องค้างแรมกันหลายคืนทั้งยังบุกป่าฝ่าดงเผชิญกับสัตว์ป่าดุร้าย มากมาย    แต่กลุ่มผู้ศรัทธาก็ไม่ยอมย่อท้อ ต่อความยากลำบาก เดินทางมาจนถึงตัวท่านให้ท่านเป่ากระหม่อมบ้าง   รดน้ำมนต์บาง เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระครูภาวนาภิมณฑ์ หรือหลวงปู่สุข ธมฺมโชโต มรณภาพ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๕ สิริอายุ ๙๕ ปี

สุดอภินิหาร พุทธาคม !!! วัวคงกระพัน ของ หลวงปู่สุข !!! ชาวบ้านแอบขโมยไปฆ่าหลายครั้ง ผลสุดท้ายต้องพากลับมาคืนทุกที !!!

ข้อมูลอ้างอิงจาก : buddhakhun.org , www.web-pra.com