- 01 ก.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด : www.tnews.co.th
วันนี้ ( 31 ส.ค.) กรมสรรพาวุธทหารบก ได้มีการฝึกซ้อมพลฉุดชักราชรถ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อความพร้อมเพรียงและความสง่างามตามโบราณประเพณี บริเวณสนามบินเล็ก กองทัพอากาศ โดยมีการฝึกกำลังพลใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ การจำลองอัญเชิญพระโกศพระบรมศพขึ้นสู่พระมหาพิชัยราชรถ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นจำลองการอัญเชิญพระโกศพระบรมศพจากพระมหาพิชัยราชรถไปสู่ราชรถปืนใหญ่ เพื่อแห่อุตราวัฏรอบพระเมรุมาศ 3 รอบ และสุดท้ายเป็นการฝึกซ้อมอัญเชิญพระโกศพระบรมศพ จากราชรถปืนใหญ่ขึ้นสู่พระเมรุมาศ
โดยมีพลโทอาวุธ เอมวงศ์ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ได้เข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการฝึกซ้อมของพลฉุดชักราชรถอย่างใกล้ชิด พร้อมกล่าวว่าภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ทุกขั้นตอนการฝึกซ้อมเป็นไปตามแผน และถูกต้องตามโบราณราชประเพณีกำหนดไว้ ทั้งนี้กำลังพลทุกนายต่างตั้งใจและมุ่งมั่นทำหน้าที่กำลังพลฉุดชักราชรถให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความงดงาม ทำให้ริ้วขบวนสง่างามสมพระเกียรติมากที่สุด สำหรับกำลังพลชุดฉุดชักราชรถที่กรมสรรพาวุธรับผิดชอบ ประกอบด้วย ราชรถพระนำใช้กำลังพล 79 นาย พระมหาพิชัยราชรถใช้กำลังพล 222 นาย กำลังพลสำรอง 30 นาย กำลังพลเกรินบันไดนาค 110 นาย รวมกำลังพลเฉพาะชุดฉุดชักราชรถทั้งหมด 441 นาย
สำหรับการฝึกช่วงที่ผ่านมา กรมสรรพาวุธทหารบก ได้จัดสร้างเกริ่นบันไดนาคและพระโกศจำลองขึ้นมาใหม่ เพื่อให้กำลังพลคุ้นชินบรรยากาศเหมือนวันจริงให้มากที่สุด ส่วนพระมหาพิชัยราชรถ และราชรถพระนำ กองทัพบกฝึกซ้อมด้วยการใช้รถบบรรทุกขนาดใหญ่ ให้มีขนาดและน้ำหนักเทียบเท่าราชรถองค์จริง หลังจากนี้การฝึกซ้อมกำลังพลฉุดชักราชรถ จะย้ายไปฝึกในพื้นที่ของกองพลทหารราบที่11รักษาพระองค์ กองทัพบก เมื่อถึงเดือนตุลาคมจะนำกำลังพลเข้าฝึกซ้อมย่อยในพื้นที่จริงบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ครั้งแรกในวันที่ 7 ตุลาคม ก่อนจะซ้อมใหญ่เสมือนจริง 1 ครั้ง ในวันที่ 21 ตุลาคม 2560
ทั้งนี้สำหรับกำหนดการฝึกซ้อมในห้วงต่อไป มีดังนี้
- การซ้อมย่อย ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในห้วงวันที่ 4-19 กันยายน 2560 และ 21 , 28 กันยายน 2560
- การซ้อมย่อยในพื้นที่จริง ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 7 , 14 ตุลาคม 2560
- ในวันที่ 21 ตุลาคม 2560 เป็นการซ้อมใหญ่ ณ พื้นที่จริง
- ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 วันประกอบพระราชพิธี
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thai PBS
ขอบคุณ : kapook.com