- 02 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th
ต้องอ่าน!!! "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ชำแหละ 10 ละครฉากใหญ่ ที่ "หญิงปู" ใช้ตบตาคนไทยทั้งชาติ-มาตลอด 3 ปี หลังจากที่เธอตกจากเก้าอี้แห่งอำนาจ...และเข้าสู่ยุค คสช. บอกเลยหลวงปู่ฯ ชำแหละจนถึงแก่น และเห็นภาพว่า "เธอ" ทำทั้งหมดนั่น...เพื่ออะไร
หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนานกรัฐมนตรี หลบหนีคดีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนศาลฯ ออกหมายจับไปตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
หลายคนยังพยายามวิเคราะห์ถึงสาเหตุ และเส้นทางหลบหนีที่ทำให้เธอหลุดรอดไปได้ รวมทั้งหลายคนพยายามวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมโดยรวมของเธอก่อนที่จะมีการหลบหนี โดยเฉพาะเฟซบุ๊กโพสต์สุดท้ายที่ เธอบอกกับชาวเสื้อแดงว่าไม่ต้องมาที่ศาลที่หลายคนมองว่า เป็นคำใบ้อย่างดีนั้น
ต่อกรณีนี้ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้วิเคราะห์ถึงต้นสายปลายเหตุของการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เอาไว้อย่างรอบด้าน โดยหลวงปู่ฯ ได้เผยให้เห็นเป็นข้อใหญ่ ๆ ถึง 10 ข้อ ที่ใช้ตบตาคนไทยทั้งชาติ-มาตลอด 3 ปี ในยุค คสช. ทั้งหลายทั้งปวงนั่น...ก็เพื่อเปิดทาง "หนี" เมื่อถึงเวลา
โดยรายละเอียดทั้งหมด ที่หลวงปู่ฯ ระบุ คือ
พิเคราะห์ดูบทบาทของยอดนารีขี่ม้าขาวในช่วง ๓ ปี ที่ผ่านมา เธอน่าจะได้ตุ๊กตาทอง
๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๐
เห็นข่าวท่าน ผบ.กองทัพบก ยื่นอกออกมาสารภาพว่าเป็นความบกพร่องของกองทัพบกเอง จนทำให้อดีตนายกปูหนีไปได้ ทำให้พิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของเธอได้ว่า
๑. พยายามสร้างภาพว่ายอมรับในกระบวนการยุติธรรม
๒. พยายามไปศาลทุกครั้งที่มีหมายนัด ทั้งที่อยากจะหนีใจจะขาด
๓. พยายามสร้างภาพเพื่อเรียกคะแนนสงสาร และให้เชื่อว่าเธอจะต่อสู้ด้วยความจริงใจ แม้มีความหวังแค่เปอร์เซ็นต์เดียวก็ตาม ขออย่าซ้ำเติมกันอีกเลย เธอกล่าว
๔. ทุกครั้งที่เธอไปศาลจะพยายามเรียกร้องให้กองเชียร์ไปให้กำลังใจ เพื่อให้เกิดภาพทางสังคมโลกว่าเธอยังเป็นที่ยอมรับอยู่ แม้จะโดนคดีทุจริตก็ตาม
๕. ตลอด ๓ ปีที่เธอไปศาล จะมีการปล่อยข่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมในทำนองว่า ศาลปฏิเสธพยานบุคคลหรือหลักฐานทางเอกสารที่ทนายของเธอจะยื่นต่อศาลเพิ่มเติมอย่างมีนัยยะ
๖. สังเกตจากภาพข่าว ดูภาษากายที่เธอแสดงออกต่อมวลชนที่มาให้กำลังใจ แม้จะมีการพูดคุยจับไม้จับมือ มอบดอกไม้ และสวมกอด เธอมักจะเอียงคอเบนหน้าให้ห่างจากมวลชนอยู่เป็นนิจ เหมือนกับเธอกลัวหน้าจะไปสัมผัสกับมวลชน จะด้วยเหตุผลใดสุดจะคาดเดา
๗. ตลอด ๓ ปี ที่เธออยู่ในการเฝ้าดูของเจ้าหน้าที่ คสช. เธอจะพยายามออกเดินทางด้วยขบวนรถหลายคัน หากมีเจ้าหน้าที่ คสช.เฝ้าติดตามใกล้ชิด เธอและบริวารก็จักโวยวายต่อสื่อว่าเป็นการละเมิดสิทธิ
๘. เมื่อเธอออกเดินทางบ่อยเข้า โวยวายเรื่องการละเมิดสิทธิบ่อยๆ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ต้องสั่งการให้ถอยห่างออกมา แล้วให้คอยดูอยู่ห่างๆ
๙. ถึงกระนั้น เธอก็ออกเดินสายตระเวนไปทั่ว ด้วยข้ออ้างไปทำบุญพบปะผู้คน
แท้จริงแล้วคือการเช็คการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ คสช.ว่าหละหลวมขนาดไหน
๑๐. เมื่อเธอสามารถปลดพันธนาการในการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ได้ แผนหนีก็เริ่มขึ้น
รวมความแล้ว ๓ ปี ที่เธอเล่นละครตบตาเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ก็เพื่อการหนีนั่นเอง
แน่นอนคนที่คิดแผนนี้ต้องไม่ใช่เธอแน่ แต่ต้องเป็นคนระดับมันสมองชั้นหัวกะทิหรือระดับเสธยุทธการทีเดียวแหละ (คงไม่ใช่เสธของ คสช.ดอก) จึงสามารถสร้างภาพลับลวงพราง ตบตา คสช.ได้เป็นผลสำเร็จ
พุทธะอิสระ