อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้

อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้

เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ พ่อครัวแม่ครัวหลายคนคงมีปัญหาเรื่องการเก็บพริกขี้หนูไว้ได้นาน ต้องทำยังไงยังใช่ไหมครับ ซื้อมาบางทีไม่นานก็เหี่ยว ดำ หรืออาจจะเน่าอยู่ในถุง แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับเพราะวันนี้เรามีวิธีที่ทำให้เก็บพริกขี้หนูไว้กินได้นานๆมากฝากกันด้วยล่ะครับ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะครับ ไปอ่านกันเลยดีกว่า

อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ วิธีการเก็บรักษา
1.เมื่อซื้อพริกขี้หนูมาควรนำมาล้างให้สะอาดก่อนเป็นอันดับแรก

2.เด็ดก้านออก

3.นำกระดาษมาซับน้ำให้แห้ง

4.หากล่องที่มีฝาปิดมิดชิดมาใส่พริก

5.ก่อนนำพริกลงไปต้องนำกระดาษทิชชูมารองรอบๆกล่อง

6.นำพริกใส่กล่องพร้อมปิดฝาให้มิดชิด

7.นำเข้าตู้เย็น

 

อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้ อึ้ง!!!เคล็ดลับง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้

เป็นยังไงบ้างครับ วิธีการเก็บพริกขี้หนูให้เราได้กินนานขึ้นอีก แต่จะบอกว่าวิธีนี้สามารถเก็บพริกให้เหมือนสดใหม่ตลอด 3 สัปดาห์เลยล่ะครับ และยังเป็นการประหยัดเงินในการที่จะซื้อพริกบ่อยๆในครั้งต่อไปด้วยล่ะครับ โหวว สุดยอดไปเลย!!! แค่นี้เราก็จะได้กินพริกที่สดใหม่ตลอดทำให้เรามีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ลองนำไปทำกันดูนะครับเพื่อสุขภาพของคุณและครอบครัว

บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน

ขอบคุณที่มาศูนย์ร่วมเกษตรน่ารู้