อ้างเสรีภาพการเดินเรือ!! สหรัฐฯ จ้องผลประโยชน์ทะเลจีนใต้ตาเป็นมัน เล็งลาดตระเวนถี่ขึ้น หวังสร้างความขัดแย้ง แบ่งผลโยชน์มหาศาล

วันที่ 4 กันยายน 2560 หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลรายงาน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีแผนส่งเรือออกลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ให้บ่อยยิ่งขึ้น จากกรายงานอ้างว่าอาจจะ 2-3 ครั้งต่อเดือน เพื่อสำแดงเสรีภาพในการสัญจรผ่านน่านน้ำพิพาทซึ่งจีนอ้างกรรมสิทธิ์อยู่ 

จากรายงาน ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการแสดงจุดยืนแข็งกร้าวและว่าไม่ยอมรับการอ้างกรรมสิทธิ์ทางทะเลของจีน มากกว่าจะใช้แนวทาง “เฉพาะกิจ” แบบที่รัฐบาลบารัค โอบามา นิยมทำอยู่ในขณะนั้น

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังไม่เปิดเผยว่า ภารกิจลาดตระเวนจะมีขึ้นอีกครั้งที่ไหนและเมื่อไหร่ กล่าวแต่เพียงว่า กองบัญชาการภาคแปซิฟิกได้วางแผนให้มีปฏิบัติการยืนยันเสรีภาพในการเดินเรือ หรือ “fonop” โดยประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือน ตลอดช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งทางเพนตากอนอาจส่งเครื่องบินทหาร หรือเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ เข้ามีส่วนร่วมในภารกิจเหล่านี้ด้วย

ในภารกิจลาดตระเวน fonop ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยครั้งล่าสุดได้ส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี จอห์น เอส. แม็กเคน ล่องเข้าไปในรัศมี 12 ไมล์ทะเล รอบเกาะเทียมของจีน ก่อนที่เรือลำนี้จะประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับเรือสินค้านอกชายฝั่งสิงคโปร์ จนมีลูกเรือเสียชีวิต 10 นาย เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ พร้อมทั้งสร้างหมู่เกาะเทียม ซึ่งมีทั้งท่าเรือ ทางวิ่งเครื่องบิน และสาธารณูปโภคอื่นๆ อย่างครบครัน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือมูลค่าราว 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน และไต้หวัน ก็อ้างสิทธิทับซ้อนอยู่เช่นกัน