เข้าทางอเมริกา!! เกาหลีใต้ เตรียมต่อ เรือดำน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ!?!

วันที่ 7 กันยายน 2560 มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ชื่อว่า Army Worldwide News ได้เผยแพร่ เรื่องราวเกี่ยวกับ รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ ในเรื่องพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้าง เรือดำน้ำ “พลังงานนิวเคลียร์” และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ความจำเป็นในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เพื่อเผชิญหน้ากับการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางทหารจากเกาหลีเหนือ ซึ่งได้ระบุรายละเอียดไว้ดังนี้

ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพประชาชนเกาหลีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่สองในรอบไม่กี่เดือน รวมถึงขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำติดขีปนาวุธของกองทัพเรือประชาชนเกาหลีหลายครั้ง

ล่าสุด สำนกข่าว koreatimes รายงาน กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีจึงได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติเกาหลีใต้ในหลายประเด็น ซึ่งช่วงหนึ่งมีการกล่าวถึงการพิจารณาการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ประจำการสำหรับกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี

รัฐบาลเกาหลีใต้เดินหน้าเตรียมการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โดยได้มอบหมายให้ ทร.เกาหลีใต้ ร่วมกับสถาบันเอกชนทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

 

นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยังได้พยายามขอรับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ในการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ข้อดีของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์คือความสามารถในการปฏิบัติงานใต้น้ำต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ในขณะที่เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าต้องขึ้นไปใกล้ผิวน้ำเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เป็นประจำ โดยในปัจจุบัน ทร.เกาหลีใต้มีเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า 2 รุ่น คือเรือดำน้ำชั้น 209 (Chang Bogo) สามารถปฏิบัติการใต้น้ำต่อเนื่องได้ 2-3 วัน กับเรือดำน้ำชั้น 214 (Son Won-il) ติดตั้งระบบขับเคลื่อน AIP สามารถปฏิบัติการใต้น้ำต่อเนื่องได้ประมาณ 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงเรือดำน้ำ ถึงแม้จะไม่ใช่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์โดยตรง แต่ก็เป็นการใช้พลังงานนิวเคลียร์ทางทหารซึ่งอาจขัดกับสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Non-Proliferation Treaty หรือ NPT) รวมทั้งจะถูกมองเป็นภัยคุกคามต่อจีนอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : koreatimes , Army Worldwide News